นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอีเอส) กล่าวว่า จากกรณีที่ ผู้แทนกลุ่มลาขาดควันยาสูบ นายอาสา ศาลิคุปต และนายมาริษ กรัณยวัฒน์ เดินทางเข้าพบเพื่อร้องเรียนเกี่ยวกับความเดือดร้อนของประชาชนเรื่องบุหรี่ไฟฟ้า ซึ่งโดยส่วนตัวสนับสนุนการผลักดันบุหรี่ไฟฟ้าให้ถูกกฎหมาย โดยจะจัดตั้งคณะทำงานขึ้นมา เพื่อหากระบวนการทางกฎหมายในการขับเคลื่อน
ปัจจุบัน ในข้อเท็จจริงมีการนำเข้าบุหรี่ไฟฟ้า และการจำหน่ายทางออนไลน์ผิดกฏหมายอย่างแพร่หลาย ซึ่งทางกระทรวงดิจิทัลฯ พยายามดำเนินการแก้ไขปัญหานี้อยู่ แต่ต้องยอมรับว่าด้วยระบบเทคโนโลยีโชเชียลมีเดียของไทยเป็นระบบเปิด จึงมีข้อจำกัดอย่างมากในการปิดกั้นช่องทางผิดกฎหมายดังกล่าว
“ผมเชื่อว่าการห้ามใช้บุหรี่ไฟฟ้าไม่ใช่น่าใช่สิ่งที่ถูกต้อง เพราะมีผลศึกษาจากหลายประเทศว่า บุหรี่ไฟฟ้าเป็นทางเลือกที่ปลอดภัยกว่า มีอันตรายต่อสุขภาพน้อยกว่าบุหรี่มวน และในหลายประเทศก็ยอมรับเรื่องการใช้บุหรี่ไฟฟ้าแล้ว อย่างไรก็ตาม ในประเทศไทยยังมีข้อจำกัดจากเสียงคัดค้านของบุคลากรทางการแพทย์กลุ่มหนึ่ง ทำให้การขออนุญาตนำเข้าโดยตรงเป็นไปได้ยาก และมีกฎระเบียบห้ามนำเข้าบุหรี่ไฟฟ้า” นายชัยวุฒิกล่าว
ทั้งนี้ หลังจัดตั้งคณะทำงาน ก็จะมีการจัด Forum สัมมนา และจัดหน่วยเผยแพร่ความรู้ให้ประชาชนเกิดความเข้าใจที่ถูกต้องเกี่ยวกับบุหรี่ไฟฟ้าต่อไปด้วย โดยทำงานร่วมกับเครือข่ายกลุ่มผู้ให้การสนับสนุนการใช้บุหรี่ไฟฟ้า โดยมองว่าสิ่งสำคัญคือ ถ้าทำให้ถูกกฎหมาย รัฐบาลก็สามารถที่จะควบคุมได้ โดยใช้กระบวนการทางกฏหมายเหมือน พ.ร.บ. ยาสูบฯ และใช้มาตรการภาษีจัดเก็บภาษีในการควบคุมด้วย รัฐก็ได้รายได้เพิ่มขึ้น มีประโยชน์หลายอย่าง
พร้อมกันนี้ ย้ำว่าการขับเคลื่อนบุหรี่ไฟฟ้าถูกกฎหมาย ไม่มีผลประโยชน์แอบแฝงใดๆ และไม่มีผลกระทบต่อคะแนนเสียงทางการเมือง เพราะเป็นสิ่งที่เป็นประโยชน์ต่อประชาชน ที่ไม่สามารถเลิกบุหรี่มวนได้แล้วหันมาสูบบุหรี่ไฟฟ้าซึ่งปลอดภัยกว่า และจากที่ได้คุยกับหลายพรรคการเมือง รวมถึงประชาชนหลายกลุ่ม มีความเห็นด้วยกับการผลักดันในเรื่องนี้