เมื่อวันที่ 15 ม.ค. 65 นายธนพลธ์ ดอกแก้ว นายกสมาคมเพื่อนโรคไตแห่งประเทศไทย กล่าวถึงกรณีที่นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข มีนโยบายขยายสิทธิประโยชน์เพิ่มให้ผู้ป่วยเข้าถึงการฟอกไตฟรีทุกกรณีทั้งการล้างไตผ่านทางช่องท้อง และการฟอกเลือดด้วยเครื่องไตเทียม ซึ่งจะเริ่มดำเนินการในวันที่ 1 ก.พ. นี้ ว่า ขอย้อนกลับไปยังที่มาที่ไปของเรื่องราวทั้งหมด เมื่อวันที่ 1 ต.ค.51 ที่รัฐบาลมีนโยบายให้ผู้ป่วยโรคไตได้เข้าถึงสิทธิการรักษาพยาบาลในด้านการบำบัดทดแทนไตแล้ว เช่นฟอกเลือดด้วยเครื่องไตเทียม การล้างไตผ่านทางช่องท้อง แต่การฟอกเลือดด้วยเครื่องไตเทียมผู้ป่วยต้องร่วมจ่าย (รัฐจ่ายส่วนหนึ่งผู้ป่วยจ่ายส่วนหนึ่ง) การฟอกไตผ่านทางช่องท้องฟรี หากผู้ป่วยไม่สามารถล้างไตผ่านทางช่องท้องได้ ด้วยข้อบ่งชี้ทางการแพทย์ สามารถปรับเปลี่ยนมาฟอกเลือดด้วยเครื่องไตเทียมฟรี แต่ต่อมาในช่วงระยะเวลาหนึ่งทาง สปสช. ขยายสิทธิให้ผู้ป่วยตั้งแต่ 1 ต.ค.51 ไม่ต้องร่วมจ่าย แต่ยังพบปัญหาคือ มีผู้ป่วยจำนวนหนึ่ง ไม่ยอมเข้าสู่กระบวนการตามสิทธิการรักษา ด้วยปัจจัยต่างๆ อาทิ เกิดความกังวล ไม่มั่นใจ ขาดองค์ความรู้ โดยเลือกฟอกไตผ่านเส้นเลือด ต้องดูแลค่าใช้จ่ายเองทั้งหมด เป็นค่าใช้จ่ายจำนวนมากมายมหาศาล เพราะเป็นโรคเรื้อรัง การรักษาต่อเนื่องยาวนาน บางคนต้องทำงานหนัก เพื่อหาเงินมาจ่าย ไปจนถึงขายบ้าน ขายรถ บางคนยอมเป็นหนี้ นับล้านก็มี เพื่อให้ได้มีชีวิตอยู่ต่อไป

บางครั้ง ผู้ป่วยกลุ่มนี้ได้รับความช่วยเหลือจากมูลนิธิและองค์กรการกุศลต่างๆ ที่เข้ามา แต่มันไม่ยั่งยืน งบตรงนั้นหมด ผู้ป่วยก็ต้องจ่ายเองต่อไป ซึ่งส่วนตัวผม ได้ฟังความทุกข์ของประชาชน ผมมองว่าเราต้องแก้ปัญหาในเชิงระบบ จึงให้ข้อมูลในด้านต่างๆกับผู้ป่วย และทราบข่าวว่านายอนุทินมีแผนลงพื้นที่ในจังหวัดนครพนม ตนจึงแจ้งให้ผู้ป่วยหาโอกาสเข้าพบท่านเพื่อแจ้งปัญหาและอุปสรรคในการเข้ารับบริการบำบัดทดแทนไต เพื่อให้ท่านช่วยแก้ไขปัญหาทั้งระบบอย่างเร่งด่วน

“ผมขอเป็นตัวแทนของผู้ป่วยที่ขอกล่าวขอบคุณท่าน อันที่จริงไม่ใช่เพียงเรื่องนี้ที่ท่านช่วยเหลือเรา แต่ทุกครั้งที่เราเสนออะไรขึ้นไปถึงท่าน ท่านจะเร่งดำเนินการให้ เช่น การขยายสิทธิในการฟอกเลือดด้วยเครื่องไตเทียมกับกลุ่มผู้ป่วยที่มีโรคร่วม HIV ให้มีหน่วยบริการในทุกจังหวัดไว้คอยรองรับผู้ป่วยกลุ่มนี้ ไปจนถึงการขยายสิทธิ์ ให้ผู้ป่วยในช่วงที่โควิด-19 ระบาด กระทั่งมาถึงเรื่องของการฟอกไตฟรีนี่เอง เบื้องต้นนี้ ขอขอบพระคุณมากๆ ที่ท่านใส่ใจผู้ป่วยอย่างเรา”

นายธนพลธ์ กล่าวด้วยว่า หลังจากนี้ไป ในชั้นของการดำเนินงาน และการออกประกาศตามมติบอร์ด สปสช. วันที่ 1 ก.พ. 65 ทางเครือข่ายพร้อมให้การช่วยเหลือ และสนับสนุน ไปจนถึงให้คำแนะนำในฐานะผู้ประชาชน และผู้ป่วย เพื่อปกป้อง และเฝ้าระวังตามสิทธิที่ควรจะได้รับซึ่งโครงการนี้เป็นโครงการที่ดี ประชาชนต้องเข้าถึงบริการอย่างเท่าเทียม และมีคุณภาพอย่างถ้วนหน้า