นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่า แม้ในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา ประเทศไทย และทั่วโลกจะประสบปัญหาวิกฤติโควิด-19 แต่งานกระทรวงคมนาคมยังคงเดินหน้าพัฒนาโครงข่ายคมนาคมของประเทศ ในการดำเนินการโครงสร้างพื้นฐานซึ่งเป็นเป็นครื่องจักรสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศ ทั้งการท่องเที่ยว และการลงทุนของภาคเอกชนที่ได้รับผลกระทบและชะลอตัว
ในปี 2565 กระทรวงคมนาคมมีเม็ดเงินลงทุนโครงข่ายคมนาคมทั้งหมด 1.4 ล้านล้านบาท ประกอบด้วยโครงการที่ลงนามสัญญาแล้ววงเงิน 516,000 ล้านบาท และโครงการลงทุนใหม่ 974,000 ล้านบาท ซึ่งจะช่วยจ้างงานได้มากถึง 154,000 ล้านบาท สร้างมูลค่าเพิ่มในส่วนของการใช้จ่ายด้านวัสดุก่อสร้าง อุปกรณ์ 1.24 ล้านล้านบาท เกิดผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจร้อยละ 2.35 ของจีดีพี หรือประมาณ 400,000 ล้านบาท
สำหรับแผนลงทุนของกระทรวงทั้งราง น้ำ บก อากาศ จะช่วยเพิ่มความเร็วในการเดินทาง โดยรถไฟฟ้า เพิ่มความเร็วในการเดินทางช่วงรถติดได้ 35 กิโลเมตรต่อชั่วโมง เส้นทางมอเตอร์เวย์ เพิ่มความเร็วได้ จาก 80 กิโลเมตร เป็น 120 กิโลเมตรต่อชั่วโมง รถไฟทางคู่ เพิ่มความเร็วจาก 60 กิโลเมตรเป็น 100 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ลดต้นทุนค่าขนส่งได้ 4 เท่า, รถไฟความเร็วสูง เพิ่มความเร็วการเดินทางจาก 80 กิโลเมตรเป็น 160 กิโลเมตรต่อชั่วโมง สนามบินดอนเมือง สุวรรณภูมิ อู่ตะเภา เชื่อต่อกรเดินางภูมิภาคและต่างประเทศเร็วรองรับผู้โดยสารจาก 80 ล้านคนต่อปี เป็น 120 ล้านคนต่อปี
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม กล่าวอีกว่า กระทรวงคมนาคมดำเนินการพัฒนารถไฟฟ้าในกรุงเทพ และปริมณฑล ทั้งหมด 14 สายทางระยะทาง 554 กิโลเมตร ปัจจุบันเปิดให้บริการแล้ว 6 สาย 11 เส้นทาง อยู่ระหว่างการก่อสร้าง 4 สายทาง และในปี 2565 จะเปิดใช้บริการสายสีเหลือง ช่วง ลาดพร้าว-สำโรง และแยกรัชดา-ลาดพร้าว-แยกรัชโยธิน เปิดให้บริการเดือนมิถุนายนนี้ ส่วนสายสีชมพู ช่วงแคราย–มีนบุรี และช่วงสถานีศรีรัช-เมืองทองธานี เปิดบริการเดือนกรกฎาคม 2566 สายสีส้ม ช่วงศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย-มีนบุรี คาดว่าจะเสร็จเดือนธันวาคม 2568 และแอร์พอร์ต เรล ลิงค์ ช่วงพญาไท–บางซื่อ–ดอนเมือง จะเปิดให้บริการ ปี 70 อีกทั้งยังมีอีก 4 สายที่อยู่ระหว่างศึกษารูปแบบลงทุน และเปิดประมูล ซึ่งจะเปิดให้บริการปี 70 เป็นต้นไป
นอกจากนี้ ยังมีแผนสร้างรถไฟทางคู่ โดยเชื่อมโยงฝั่งตะวันออกสู่ตะวันตก เหนือสู่ใต้ รองรับการเชื่อมต่อไปยังประเทศเพื่อนบ้าน ซึ่งปี 2565 ก่อสร้างรถไฟทางคู่ ระยะแรก จะแล้วเสร็จ 1,111 กิโลเมตร