นายอลงกรณ์ พลบุตร ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ในฐานะประธานคณะทำงานจัดทำแผนแก้ไขปัญหาผลไม้เศรษฐกิจล่วงหน้าทั้งระบบเปิดเผยว่า ในวันที่26 มกราคมนี้ ขบวนรถขนส่งสินค้าจากสถานีเวียงจันทน์ใต้จะออกเดินบนเส้นทางรถไฟจีน-ลาวเข้าจีนที่ด่านรถไฟโมฮ่านในตอนใต้ของมณฑลยูนนานสู่มหานครฉงชิ่งในภาคตะวันตกของจีนโดยใช้เวลาประมาณ3-4วันเร็วกว่าการขนส่งทางเรือถึง4เท่าตัว
นับเป็นขบวนรถสินค้าปฐมฤกษ์ที่ขนส่งสินค้าเกษตรของไทยไปยังประเทศจีนผ่านสปป.ลาวเป็นครั้งแรกตั้งแต่เปิดเส้นทางรถไฟสายจีน-ลาวอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่3ธันวาคมที่ผ่านมาโดยสินค้าเกษตรล็อตแรกเป็นข้าวเหนียวหัก20ตู้น้ำหนัก500ตันจากบริษัทกล้าทิพย์ที่จังหวัดหนองบัวลำพู
นายอลงกรณ์กล่าวว่า ก่อนหน้านี้มีรายงานจากหน่วยงานต่างประเทศคลาดเคลื่อนว่า ได้มีการขนส่งไปฉงชิ่งแล้วเมื่อวันที่20มกราคม แต่เมื่อตนตรวจสอบย้อนกลับในวันเดียวกันทราบว่าข้าวล็อตดังกล่าวได้ส่งออกจากประเทศไทยผ่านด่านหนองคายไปฝั่งสปป.ลาวที่ท่าบกท่านาแล้งแล้วแต่ยังไม่ได้ส่งไปถึงมหานครฉงชิ่งเพราะต้องรอเคลียร์พิธีการทางศุลกากรและไฟเขียวจากกระทรวงกสิกรรมที่นครเวียงจันทน์จึงได้ประสานกับนายด่านตรวจพืชหนองคาย ผู้ส่งออก บริษัทชิ้ปปิ้งและบริษัทผู้ให้บริการโลจิสติกส์ของไทยและจีนจนทราบปัญหาจึงติดต่อให้คุณจันทร สิทธิชัย ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของบริษัทเวียงจันทน์โลจิสติกส์ปาร์คและท่าบกท่านาแล้งช่วยสนับสนุนจนเรียบร้อยและได้รับแจ้งว่าจะเคลื่อนย้ายตู้สินค้าไปสถานีเวียงจันทน์ใต้ในวันจันทร์ที่จะถึงนี้ก่อนจะยกขึ้นแคร่รถไฟเพื่อพร้อมในการเดินทางในวันพุธที่26มกราคมนี้
“ในเย็นวันนี้ผมจะหารือกับท่านเอกอัครราชทูตลาวประจำประเทศไทยเกี่ยวกับความร่วมมือระหว่างไทย-ลาวเรื่องการขนส่งสินค้าผ่านแดนจากไทยไปจีนบนเส้นทางรถไฟสายจีน-ลาวเพื่อความพร้อมสำหรับการขนส่งสินค้าเกษตรอื่นๆโดยเฉพาะผลไม้ที่ใกล้จะถึงฤดูกาลผลิตปี2565เริ่มตั้งแต่เดือนมีนาคมนี้
นอกจากนี้ จะมีการประชุมทางไกลกับสมาคมผลไม้และสมาคมล้งกับส่วนราชการที่เกี่ยวข้องในภาคตะวันออกวันนี้อีกด้วย
นายอลงกรณ์ยังกล่าวต่อไปว่า ก่อนหน้านี้ท่านรัฐมนตรีเกษตรฯ. ดร.เฉลิมชัย ศรีอ่อน ได้ประสานกับทางการลาวและเอกอัครราชทูตจีนประจำประเทศไทยเพื่อแก้ไขปัญหาด่านส่งออกติดขัดจากปัญหาโควิด19อย่างต่อเนื่องมาโดยตลอดนับแต่เกิดปัญหาตั้งแต่เดือนกรกฎาคมปีที่แล้ว และปลายเดือนนี้จะมีการประชุมร่วมระหว่างกระทรวงเกษตรไทย-จีนโดยฝ่ายไทยเป็นเจ้าภาพ.