การที่คณะอนุกรรมาธิการรัฐวิสาหกิจ มีความพยายามที่จะให้ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) หรือ PTTเข้ามาช่วยรัฐแก้ปัญหาราคาน้ำมัน แม้ว่าจะเป็นการให้ ปตท. ทำตามกฎหมาย ด้วยการขอให้เพิ่มเงิน CSR และการนำผลกำไรส่งรัฐมากขึ้น ยังไม่ถึงขั้นให้อุ้มราคาน้ำมัน แต่จากราคาหุ้น PTT สุดสัปดาห์ (21 ม.ค.) ที่ร่วงลงมาที่ 38.75 บาท ลดลง 1.90% ทำให้ PTT มีส่วนกดดัชนีตลาดหลักทรัพย์ราว 1.81 จุด เป็นสิ่งที่สะท้อนถึงความกังวลในการลงทุนหุ้น ปตท. ที่มีกระทรวงการคลังถือหุ้นใหญ่

แทรกแซงลดความเชื่อมั่น

นายกิจพณ  ไพรไพศาลกิจ  ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์และนักกลยุทธ์ บริษัทหลักทรัพย์ ยูโอบี เคย์เฮียน (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า การเข้ามาแทรกแซงรัฐวิสาหกิจที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ จะมีความละเอียดอ่อนด้านความเชื่อมั่น เนื่องจากเมื่อแปรรูปรัฐวิสาหกิจแล้ว การดำเนินงานต่างๆ ต้องคำนึงผู้ถือหุ้นหลายฝ่ายด้วย ซึ่งก็มีทริกในด้านของการที่คลังซึ่งถือหุ้นใหญ่หากมีส่วนได้ส่วนเสีย และก็สามารถที่จะไม่โหวตได้

นายกิจพล กล่าวว่า แม้ว่า มาตรการที่จะออกมานั้นสามารถดำเนินการได้ ไม่ได้ส่งผลมากนัก แต่หากมีการบีบให้ ปตท. ทำในสิ่งที่ผู้ถือหุ้นเสียหาย ก็ย่อมจะส่งผลต่อความเชื่อมั่นในหุ้นที่ภาครัฐถือหุ้นทั้งหมด ซึ่งรวมไปถึง AOT ด้วย อย่างไรก็ตาม มองว่าการที่ AOT ให้ความช่วยเหลือผู้ค้าปัจจุบันนับเป็นมาตรการที่เหมาะสมและจำเป็นสามารถอธิบายได้อยู่แล้ว อย่างไรก็ดีโดยมุมมองขณะนี้ยังไม่ผลกระทบใดๆ

เปิดกรุคลังถือบจ.

จากการตรวจสอบพบว่าปัจจุบันกระทรวงการคลังได้เข้าถือหุ้นบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ต่างๆ ดังนี้ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) หรือ PTT ถือหุ้น 51.11% บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ AOT ถือหุ้น 70.00% บริษัท อสมท. จำกัด (มหาชน) หรือ MCOT ถือหุ้น 65.80% บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) หรือ THAI ถือหุ้น 47.86% บริษัท ทางยกระดับดอนเมือง จำกัด (มหาชน) หรือ DMT ถือหุ้น 22.13% บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน เอ็มเอฟซี จำกัด(มหาชน) หรือ MFC ถือหุ้น 15.92% ธนาคารทหารไทยธนชาต จำกัด (มหาชน) หรือ TTB ถือหุ้น 11.79% บริษัท ปตท. น้ำมันและการค้าปลีก จำกัด (มหาชน) หรือ OR ถือหุ้น 1.28% บริษัท เบาด์ แอนด์ บียอนด์ จำกัด (มหาชน) หรือ BEYOND ถือหุ้น 10.80% บริษัท เอ็นอีพี อสังหาริมทรัพย์ และอุตสาหกรรม จำกัด (มหาชน) หรือ NEP ถือหุ้น 12.72% บริษัท โรงพยาบาลราชพฤกษ์ จำกัด (มหาชน) ถือหุ้น 2.69%

ลูกปตท.ต้องปันผลให้แม่

นายมงคล  พ่วงเภตรา  ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ ฝ่ายกลยุทธ์การลงทุนหลักทรัพย์ บริษัทหลักทรัพย์เคทีบีเอสที ระบุว่า การแทรกแซงเพื่อที่จะทำให้ ปตท. ปันผลให้ภาครัฐมากขึ้นนั้น มีมุมมองเป็นบวก และเชื่อว่าในยามที่รัฐบาลต้องการเงินก็จะมีโอกาสที่รัฐวิสาหกิจจะปันผลส่งมอบเงินมากขึ้น อย่างไรก็ตามก็อาจจะต้องติดตามด้วยว่า สถานะของหุ้นรัฐวิสาหกิจนั้นๆเป็นผลประกอบการเป็นอย่างไร โดยมองว่า AOT อาจจะปันผลได้ยาก เนื่องจากมีผลประกอบการขาดทุน

แต่หุ้นที่ปันผลหนักคือหุ้นในกลุ่มปตท.ทั้งหมด เพื่อที่จะให้ ปตท. มีเม็ดเงินจำนวนมากนำส่งภาครัฐ ประกอบด้วย บริษัท ปตท. สำรวจและผลิตปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) หรือ PTTEP บริษัท พีทีที โกลบอล เคมิคอล จำกัด (มหาชน) หรือ PTTGC   บริษัท โกลบอล เพาเวอร์ ซินเนอร์ยี่ จำกัด (มหาชน) หรือ GPSC บริษัท ไทยออยล์ จำกัด (มหาชน) หรือ TOP บริษัท ไออาร์พีซี จำกัด (มหาชน) หรือ IRPC นอกจากนี้ ปตท. ยังเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่อันดับ 1 ของ บริษัท ทิพย กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) หรือ TIPH ด้วย