ดร.รวีวรรณ ภูริเดช ผอ.สนง.คทช. นายสุรชัย อจลบุญ อธิบดีกรมป่าไม้ นายสิทธิศักดิ์ แย้มพรายภิรมย์ นอภ.ด่านช้าง นายสุชาติ ศิลปหัสดี นายก อบต.ห้วยขมิ้น และกลุ่มเกษตรกว่า 100 คน ร่วมรับฟังประชุมติตตามและประชาสัมพันธ์การส่งเสริมและพัฒนาอาชีพ และการตลาดในพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติ "ป่าห้วยขมิ้น ป่าพุน้ำร้อน ป่าหนองหญ้าไซ" ที่ศาลาประชุมวัดกกตาด ต.ห้วยขมิ้น อ.ด่านช้าง จ.สุพรรณบุรี
ดร รวีวรรณ ภูริเดช ผู้อำนวยการสำนักงานคณะกรรมการนโยบายที่ดินแห่งชาติ เปิดเผยว่า ในพื้นที่ จังหวัดสุพรรณบุรี - กรมป่าไม้ ในฐานะหน่วยงานที่กำกับดูแลพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติ ได้ดำเนินการแก้ไขปัญหาการอยู่อาศัยในพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติ โดยการนำนโยบายรัฐบาลในเรื่องของการจัดที่ดินทากินให้ชุมชนมาดำเนินการอย่างต่อเนื่อง (ราษฎรอยู่อาศัยมาก่อนการสำรวจตามมติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 30 มิถุนายน 2541 ในพื้นที่ชั้นคุณภาพลุ่มน้ำ 3,4 และ 5) โดยการอนุญาตให้เข้าทำประโยชน์ หรืออยู่อาศัยในลักษณะแปลงรวม ตามมาตรา 16 แห่งพระราชบัญญัติ ป่าสงวนแห่งชาติ พ.ศ. 2507 ซึ่งในพื้นที่บ้านกกตาดได้รับอนุญาตแล้วจำนวน 2 ครั้ง เนื้อที่รวมประมาณ 267 ไร่ ตามรายละเอียดดังนี้
ครั้งที่ 1. ในพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติป่าห้วยขมิ้น ป่าพุน้าร้อน และป่าหนองหญ้าไซ กรมป่าไม้ได้มีการออก หนังสืออนุญาตอนุญาตเล่มที่ 125 ฉบับที่ 10 ลงวันที่ 19 กรกฎาคม 2561 เนื้อที่รวม 362-0-87 ไร่ (บ้านกกตาด เนื้อที่ประมาณ 208 ไร่) และครั้งที่ 2 ในพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติ ป่าห้วยขมิ้น ป่าพุน้าร้อน และป่าหนองหญ้าไซ กรมป่าไม้ได้มีการออกหนังสือ อนุญาตเล่มที่ 16 ฉบับที่ 01 ลงวันที่ 30 กันยายน 2563 เนื้อที่รวม 352-3-85 ไร่ (บ้านกกตาด เนื้อที่ประมาณ 59 ไร่)
สำหรับพื้นที่บ้านกกตาดที่เหลือ อยู่ในระหว่างดำเนินการอนุญาตจากกรมป่าไม้ เนื้อที่รวมประมาณ 735 ไร่ ซึ่งรวมอยู่ในพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติ ป่าห้วยขมิ้น ป่าพุน้าร้อน และป่าหนองหญ้าไซ เนื้อที่รวม15,417-3-77 ไร่ และในพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติป่าองค์พระ ป่าเขาพุระกา และป่าเขาห้วยพลู เนื้อที่รวม 20,151-0-17 ไร่ ซึ่ง คทช.จังหวัดสุพรรณบุรี มีมติเห็นชอบให้ดำเนินการ และยื่นเรื่องขออนุญาตใช้ประโยชน์กับกรมป่าไม้แล้ว
สำหรับพื้นที่ ที่ได้รับหนังสืออนุญาตเข้าทำประโยชน์ ในพื้นที่บ้านกกตาด และหมู่บ้านใกล้เคียงในพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติ ป่าห้วยขมิ้น ป่าพุน้ำร้อน และป่าหนองหญ้าไซ ได้ดำเนินการจัดคนลงในพื้นที่แล้ว จำนวน 137 ราย 155 แปลง และได้จัดทำสมุดประจำตัว ผู้ได้รับการคัดเลือก จำนวน 155 เล่ม และได้รับความร่วมมือจากหน่วยงานของรัฐ ในการดูแลรักษาฟื้นฟูทรัพยากรป่าไม้ และได้รับการส่งเสริม และพัฒนาอาชีพในพื้นที่ คทช. ส่งผลให้ราษฎรมีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น
อย่างไรก็ตาม พื้นที่แห่งนี้ นับว่าเป็นพื้นที่ที่มีการรวมกลุ่มเกษตรกรที่ความเข้มแข็ง สามารถบริหารจัดการโดยชุมชนได้ และทําให้การบริหารจัดการที่ดินของชุมชน เกิดความยั่งยืน สํานักงานคณะกรรมการนโยบายที่ดินแห่งชาติ (สคทช.) จะดําเนินการเพื่อยกระดับ การจัดที่ดินทํากินให้ชุมชน โดยปรับเปลี่ยนให้ผู้ขอใช้ประโยชน์การอยู่อาศัย และทำกินในป่าสงวนแห่งชาติจากผู้ว่าราชการจังหวัด เป็นสหกรณ์วิสาหกิจชุมชน หรือกลุ่มเกษตรกรที่ขึ้นทะเบียนกับหน่วยงานของรัฐในพื้นที่ที่ดําเนินการจัดที่ดินทํากินให้ชุมชนตามนโยบาย คทช. ภายใต้เงื่อนไขแนวทางปฏิบัติของกรมป่าไม้ มาตรา ๑๖ แห่ง พระราชบัญญัติป่าสงวนแห่งชาติ พ.ศ. ๒๕๐๗ และเป็นไปตามแนวทางการประเมินความเข้มแข็งในการบริหารจัดการของสหกรณ์ โดยกรมส่งเสริมสหกรณ์ และเสนอผ่าน คทช.จังหวัด เพื่อให้ความเห็นชอบการขอเปลี่ยน ผู้ขอใช้ประโยชน์ และเสนอไปยังกรมป่าไม้ เพื่อดําเนินการตามกฎหมาย และระเบียบที่เกี่ยวข้องต่อไป
นายวิทยา อุดมพงษ์ ผู้ใหญ่บ้าน หมู่.9 ต.ห้วยขมิ้น กล่าวว่า ในนามของตัวแทนชาวบ้าน ขอขอบพระคุณหน่วยงานทุกหน่วยงาน ที่ช่วยเหลือในการจัดสรรพื้นที่ จากพื้นที่ป่าไม้ เป็นพื้นที่ คทช. ชาวบ้านมีความดีใจอย่างยิ่ง ส่วนสิ่งที่อยากฝากให้ช่วยเหลืออีกเรื่องคือในหมู่บ้านห้วยขมิ้น เป็นพื้นที่ถิ่นทุรกันดาร อยากให้ช่วยการจัดตั้งสหกรณ์ในการประสานงานเพื่อช่วยเหลือเรื่องราคาพืชผลการเกษตร
ทีมข่าวปทุมธานี