กรมควบคุมมลพิษ (คพ.) พบปี 2564 ประเทศไทยมีปริมาณขยะติดเชื้อและขยะอันตรายเพิ่มขึ้นจากสถานการณ์โควิด-19 จึงเพิ่มมาตรการและแนวทางกำจัดอย่างถูกวิธีลดผลกระทบต่อประชาชนและสิ่งแวดล้อม ขณะที่ขยะมูลฝอยมีปริมาณลดลง

นายอรรถพล เจริญชันษา อธิบดีกรมควบคุมมลพิษ (คพ.) กล่าวถึงสถานการณ์ขยะมูลฝอยปี 2564 ที่ผ่านมาว่า ภาพรวมปริมาณขยะมูลฝอยเกิดขึ้น 24.98 ล้านตัน พบลดลงจากปี 2563 ร้อยละ 1 หลังขยะมูลฝอยมีการคัดแยก ณ ต้นทาง และนำกลับไปใช้ประโยชน์ 8.61 ล้านตัน โดยมีการกำจัดอย่างถูกต้อง 9.68 ล้านตัน และกำจัดไม่ถูกต้องประมาณ 6.69 ล้านตัน สาเหตุส่วนหนึ่งที่ทำให้ปริมาณขยะมูลฝอยลดลงมาจากสถานการณ์โควิด-19 ที่มีการควบคุมการเดินทางของนักท่องเที่ยวจากต่างประเทศมาประเทศไทย แต่มาตรการกำหนดให้ปฏิบัติงาน Work From Home และการสั่งอาหารผ่านระบบบริการส่งอาหาร (Food Delivery) เพิ่มมากขึ้น ส่งผลให้ปริมาณพลาสติกใช้ครั้งเดียว (Single use plastic) เพิ่มขึ้น เช่น กล่องโฟม กล่องพลาสติกใส่อาหาร ถุงพลาสติกหูหิ้ว ถุงร้อน-เย็น ถุงเครื่องปรุง ช้อน ส้อม มีดพลาสติก แก้วพลาสติก จากห้างสรรพสินค้า ซูเปอร์มาร์เก็ต ร้านสะดวกซื้อ และ Platform ของผู้ให้บริการส่งอาหาร เช่น Grab Food , Line Man , Wongnai , Gojek , Food Panda , Lalamove ทั้งนี้ ส่วนขยะมูลฝอยติดเชื้อปี 2564 พบมีปริมาณเพิ่มขึ้นเช่นกันอยู่ที่กว่า 90,009 ตัน เกิดจากโรงพยาบาลในสังกัดกระทรวงสาธารณสุข โรงพยาบาลสังกัดกรมวิชาการ โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล โรงพยาบาลสังกัดกระทรวงอื่นๆ โรงพยาบาลเอกชน คลินิกเอกชน สถานพยาบาลสัตว์ ห้องปฏิบัติการเชื้ออันตราย และมูลฝอยติดเชื้อของโรงพยาบาลสนาม สถานกักกันที่ราชการกำหนด ศูนย์แยกกักในชุมชน (CI) การแยกกักตัวที่บ้าน (HI) และสถานที่อื่นๆ ซึ่งได้รับการจัดการอย่างถูกต้อง 81,774.67 ตัน หรือร้อยละ 90.85 โดยกรมควบคุมมลพิษ (คพ.) ได้จัดทำข้อแนะนำในการทิ้งหน้ากากอนามัยที่ใช้แล้วและชุดทดสอบแอนติเจน (ATK) ที่ใช้แล้ว ด้วยการคัดแยกออกจากขยะทั่วไปและให้มีถังขยะแยกสำหรับทิ้งขยะติดเชื้อโดยเฉพาะ

อธิบดีกรมควบคุมมลพิษ (คพ.) กล่าวย้ำว่า ส่วนของเสียอันตรายจากชุมชนปี 2564 เกิดขึ้นประมาณ 669,518 ตัน เพิ่มขึ้นร้อยละ 1.6 ส่วนใหญ่เป็นซากผลิตภัณฑ์เครื่องใช้ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ 435,187 ตัน และของเสียอันตรายประเภทแบตเตอรี่ ถ่านไฟฉาย ภาชนะบรรจุสารเคมี กระป๋องสเปรย์ ประมาณ 234,331 ตัน โดยมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นหลังพบประชาชนมีความต้องการและนิยมใช้เครื่องใช้ไฟฟ้าและอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์มากขึ้น โดยเฉพาะมีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วของเทคโนโลยี ส่งผลให้เปลี่ยนอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์บ่อยขึ้นเพื่อให้ทันสมัย