นายวรรณชัย บุตรทองดี ผู้อำนวยการกองวิศวกรรม กรมเจ้าท่า กระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่า ที่ผ่านมายุทธศาสตร์ชาติและนโยบายรัฐได้มุ่งเน้นพัฒนาด้านการท่องเที่ยว เนื่องจากภาคการท่องเที่ยวเป็นกลไกหลักในการพัฒนาเศรษฐกิจ
ขณะที่เกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานี เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่ได้รับความนิยม และเรือสำราญเข้าเทียบท่าสูงเป็นอันดับ 4 ของเอเชีย รองจากประเทศญี่ปุ่น จีน และมาเลเซีย นอกจากนี้ ประเทศไทยมักถูกเลือกเป็นจุดแวะพักของเรือสำราญขนาดใหญ่ แต่ปัจจุบันเรือสำราญขนาดใหญ่ยังไม่สามารถเข้าเทียบท่ากับประเทศไทยได้โดยตรง ต้องอาศัยเรือขนาดเล็กรองรับนักท่องเที่ยวจากเรือสำราญอีกที
ดังนั้น กระทรวงคมนาคม โดยกรมเจ้าท่าจึงเริ่มโครงการศึกษาและวิเคราะห์ให้เอกชนร่วมลงทุนในโครงการพัฒนาท่าเทียบเรือสำราญขนาดใหญ่ หรือ Cruise Terminal เริ่มจากบริเวณแหลมหินคม ตำบลตลิ่งงาม อำเภอเกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานี เนื่องจากมียุทธศาสตร์ที่มีความพร้อมด้านวิศวกรรม เศรษฐกิจ สิ่งแวดล้อม และสังคม
สำหรับโครงการท่าเทียบเรือสำราญขนาดใหญ่ที่สมุย จะเป็นการร่วมทุนระหว่างรัฐบาลและเอกชน หรือ PPP ภายใต้งบลงทุน 12,146 ล้านบาท
สำหรับท่าเรือจะมีความยาวหน้าท่า 362 เมตร ความลึกร่องน้ำอยู่ที่ 12 เมตร อาคารผู้โดยสารสามารถจุได้ 3,600 คน รองรับเรือสำราญขนาดใหญ่ได้พร้อมกัน 2 ลำ เรือยอชต์ 80 ลำ และเรือเฟอร์รี่ 6 ลำ
นายวรรณชัยกล่าวต่อไปว่า คาดการณ์ว่าหลังสร้างท่าเทียบเรือสำราญขนาดใหญ่ที่สมุยเสร็จในปี 2570 คาดว่าจะมีนักท่องเที่ยวจากเรือสำราญเข้าประเทศไทยสูงถึง 170,025 ราย และในปี 2575 จะเพิ่มขึ้นเป็น 309,565 ราย ปี 2580 เพิ่มเป็น 386,605 ราย และในปี 2585 สิ้นสุดสัมปทานโครงการจะมีนักท่องเที่ยวสูงถึง 494,887 ราย