ฝ่ายปกครองอำเภอแม่สอดสกัดจับหนุ่มชาวเขาหัวใสดัดแปลงรถกระบะขนมันสำปะหลังแต่ซุกซ่อนแรงงานต่างด้าว14 คนหวังหาเงินพิเศษส่งค่างวดผ่อนส่งรถยนต์ ส่วนแรงงานต้องเสียค่านายหน้ารายละ 22000 บาทและต้องนั่งห่วงยางลอยข้ามแม่น้ำเมยในการลักลอบข้ามแนวชายแดนไทย-เมียนมา เร่งตั้งจุดตรวจสกัดตลอด24 ชั่วโมง

เมื่อเวลา 05.30 น. ( 2 เม.ย. 65 ) นายสมชาย ไตรทิพย์ชาติสกุล นายอำเภอแม่สอดสั่งการให้นายภัทรดนัย อุทัยรัตน์ หัวหน้าฝ่ายความมั่นคงอำเภอแม่สอดนำกำลังชุดเคลื่อนที่เร็วกองร้อยอาสารักษาดินแดนอำเภอแม่สอดที่ 3 สนธิกำลังทหารหน่วยเฉพาะกิจกรมทหารราบที่14 ตำรวจ สภ.แม่สอด พร้อมชุดรักษาความปลอดภัยหมู่บ้านที่ 1และ 2 บ้านริมเมย ตำบลท่าสายลวด อำเภอแม่สอด จังหวัดตาก ร่วมกันนำกำลังเข้าลาดตระเวนบนถนนเลียบแนวชายแดนไทย-เมียนมา เพื่อสกัดการลักลอบขนยาเสพติดและลักลอบขนแรงงานต่างด้าวผิดกฎหมาย

จนเวลาต่อมาเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองอำเภอแม่สอดได้ตรวจพบเห็นแสงไฟรถยนต์จำนวน 1 คันขับออกจากพื้นที่ท่าข้ามธรรมชาติริมเมยและรถขับด้วยความเร็วสุงลักษณะต้องสงสัยเจ้าหน้าที่จึงวิทยุแจ้งชุดเคลื่อนที่เร็วกองร้อย อส.อ.แม่สอด ให้รีบขับรถไล่ติดตามและสามารถสกัดรถยนต์คันดังกล่าวได้บนถนนท้ายหมู่บ้านริมเมย ใกล้ด่านพรมแดนถาวรแม่สอดแห่งที่ 1 ซึ่งภายหลังเจ้าหน้าที่สกัดรถยนต์คันดังกล่าวจึงเข้าทำการตรวจสอบพบเป็นรถยนต์กระบะยี่ห้อมิตซูบิชิ สีบรอนซ์เงิน หมายเลขทะเบียน บน-9752 ตาก มีนายบี แซ่ลี อายุ 38 ปี ชาวไทยภูเขาในพื้นที่อำเภอพบพระ จังหวัดตาก เป็นคนขับรถซึ่งลักษณะมีพิรุธตัวสั่นเหงื่อแตกผิดปกติ ซึ่งจากการตรวจภายนอกรถยนต์กระบะคันดังกล่าวมีการคลุมผ้าใบอย่างมิดชิดและวางทับด้วยถุงกระสอบมันสำปะหลังอย่างแน่นหนาเต็มท้ายรถเจ้าหน้าที่จึงทำการขอเข้าตรวจสอบอย่างละเอียดก็พบแรงงานต่างด้าวผิดกฎหมายสัญชาติเมียนมาจำนวน 14 คนเป็นชาย 8 รายและเป็นหญิง 6 ราย โดยแรงงานทั้งหมดอยู่ในสภาพอิดรวยโดยมีกระเป๋าสัมภาระติดตัวคนละ1ใบและต้องนั่งเบียดกันในพื้นที่แคบในกระบะรถที่คลุมผ้าใบจนอาการหายใจเหลือน้อยเป็นเวลานาน เจ้าหน้าที่จึงควบคุมตัวนายบี คนขับรถยนต์และแรงงานต่างด้าวทั้งหมดไปทำการสอบสวนที่กองร้อยอาสารักษาดินแดนอำเภอแม่สอดที่ 3 จังหวัดตากเพื่อขยายผล

จากการสอบสวนนายบี คนขับรถให้การเบื้องต้นว่าตนเองได้รับว่าจ้างจากนายหน้าไม่ทราบชื่อให้ขับรถยนต์ส่วนตัวมารับแรงงานทั้ง 14 คนที่แนวชายแดนอำเภอแม่สอดเพื่อจะนำไปส่งที่เชิงภูเขาเขตอำเภอพบพระ จังหวัดตากโดยได้ค่านำพาหัวละ 600 บาทต่อคนส่วนสาเหตุที่รับจ้างทำงานผิดกฎหมายนั้นเนื่องจากตนเองต้องการเงินไปจ่ายค่างวดรถยนต์ที่กำลังจะถูกยึดรถ ขณะที่แรงงานต่างด้าวที่ถูกจับให้ข้อมูลว่านายหน้าแรงงานเถื่อนได้ให้พวกตนเองเดินเท้าออกจากจังหวัดเมียวดี ประเทศเมียนมา แล้วมานั่งห่วงยางรถยนต์ล้อรถบรรทุกลอยข้ามแม่น้ำเมยมาขึ้นฝั่งที่ท่าข้ามธรรมชาติฝั่งแนวชายแดนอำเภอแม่สอด จังหวัดตาก ก่อนมาขึ้นรถยนต์ซึ่งแรงงานผิดกฎหมายทุกคนในรอบนี้จะต้องเสียค่านายหน้าให้กลุ่มขบวนการจำนวนหัวละ 22000 บาทแลกการนำพาไปส่งที่จังหวัดสมุทรปราการโดยจะไปทำงานก่อสร้าง ล่าสุดเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองอำเภอแม่สอดสามารถสกัดจับกลุ่มแรงงานซึ่งคาดว่าเป็นชุดเดียวกันที่ตกค้างที่ขึ้นรถยนต์นำพาไม่ทันได้เพิ่มอีกจำนวน 5 คนที่หลบซ่อนตัวอยู่ในป่าริมแม่น้ำเมยทำให้ยอดจับกุมในครั้งนี้มียอดแรงงานจำนวน 19 คน จนทำให้นายอำเภอแม่สอดต้องรีบดำเนินการเร่งนำตัวแรงงานต่างด้าวทั้งหมดพร้อมคนขับรถไปตรวจ atk เพื่อหาเชื้อโควิด-19 พร้อมดำเนินคดีคนขับรถนำพาแรงงานต่างด้าวรายนี้อย่างเด็ดขาด พร้อมวางกำลังชุดสายตรวจกำนันและผู้ใหญ่บ้านในทุกหมู่บ้านตลอดแนวชายแดนอำเภอแม่สอดให้เพิ่มความเข้มงวดในการตรวจสกัดจับการลักลอบขนแรงงานผิดกฎหมายหลังการข่าวแจ้งเตือนจะมีแรงงานอีกจำนวนมากจะลักลอบข้ามชายแดนช่วงแม่น้ำเมยแห้งขอดในเดือนนี้ ซึ่งขณะนี้เจ้าหน้าที่ได้ตั้งจุดตรวจในทุกเส้นทางตลอดแนวชายแดนอำเภอแม่สอดตลอด 24 ชั่วโมงแล้ว

ทีมข่าว จ.ตาก