พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี เสด็จพระราชดำเนินทรงเปิดโครงการจัดหาน้ำบาดาลขนาดใหญ่แก้ปัญหาภัยแล้งอันเนื่องมาจากพระราชดำริ ตำบลหนองฝ้าย อำเภอเลาขวัญ จังหวัดกาญจนบุรี
วันที่ 3 เมษายน 2565 เวลา 17.30 น. พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี เสด็จพระราชดำเนินทรงเปิดโครงการจัดหาน้ำบาดาลขนาดใหญ่แก้ปัญหาภัยแล้งอันเนื่องมาจากพระราชดำริ ตำบลหนองฝ้าย อำเภอเลาขวัญ จังหวัดกาญจนบุรี ซึ่งเป็น 1 ใน 15 โครงการแก้ปัญหาภัยแล้งอันเนื่องมาจากพระราชดำริ ครอบคลุมพื้นที่ 11 จังหวัด
เมื่อเสด็จฯ ถึงพื้นที่โครงการจัดหาน้ำบาดาลขนาดใหญ่แก้ปัญหาภัยแล้งอันเนื่องมาจากพระราชดำริ ตำบลหนองฝ้าย อำเภอเลาขวัญ จังหวัดกาญจนบุรี พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี พร้อมคณะนายวราวุธ ศิลปะอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม นายจตุพร บุรุษพัฒน์ ปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม นายศักดิ์ดา วิเชียรศิลป์ อธิบดีกรมทรัพยากรน้ำบาดาล และนายจีระเกียรติ ภูมิสวัสดิ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรี ข้าราชการ และประชาชน เฝ้าฯ รับเสด็จ
จากนั้นเสด็จฯ เข้าพลับพลาพิธี ทรงจุดธูปเทียนเครื่องนมัสการทองทิศบูชาพระพุทธนวราชบพิตร ทรงกราบ ประทับพระราชอาสน์ ทรงศีล ทรงรับการทูลเกล้าฯ ถวายสูจิบัตร หนังสือและเหรียญที่ระลึกพระนารายณ์ทรงบัลลังก์พญาอนันตนาคราช
นายกรัฐมนตรีกราบบังคมทูลรายงานความเป็นมาและวัตถุประสงค์ในการจัดสร้างโครงการจัดหาน้ำบาดาลขนาดใหญ่แก้ปัญหาภัยแล้งอันเนื่องมาจากพระราชดำริ ตำบลหนองฝ้าย อำเภอเลาขวัญ จังหวัดกาญจนบุรี พร้อมทั้งขอพระราชทานกราบบังคมทูลเชิญเสด็จฯ ทรงประกอบพิธีเปิดโครงการ
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี เสด็จออกจากพลับพลาพิธีไปยังแท่นพิธี ทรงกดปุ่มไฟฟ้าเปิดแพรคลุมป้ายโครงการจัดหาน้ำบาดาลขนาดใหญ่แก้ปัญหาภัยแล้วอันเนื่องมาจากพระราชดำริ ตำบลหนองฝ้าย อำเภอเลาขวัญ จังหวัดกาญจนบุรี มีน้ำบาดาลจากบ่อน้ำบาดาล 8 บ่อ ไหลลงสู่ถังบรรจุ 10,000 ลิตร เต็มภายในเวลา 1 นาที 25 วินาที
จากนั้นเสด็จเข้าพลับพลาพิธี ทรงประเคนจตุปัจจัยไทยธรรมแด่พระสงฆ์ ประทับพระราชอาสน์ทรงหลั่งทักษิโณทก พระสงฆ์ถวายอนุโมทนา ถวายอดิเรก นายวราวุธ ศิลปะอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กราบบังคมทูลเบิกผู้เข้ารับพระราชทานของที่ระลึก จำนวน 18 ราย ตามลำดับ
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี เสด็จฯ ไปทรงกราบที่หน้าเครื่องนมัสการ ทรงลาพระสงฆ์ เสด็จออกจากพลับพลาพิธีไปยังเต็นท์นิทรรศการ ทอดพระเนตรนิทรรศการประกอบด้วย วีดิทัศน์
1.“น้ำบาดาล...น้ำเพื่อชีวิตแห่งอนาคต”
2.วัฏจักรอุทกวิทยาของประเทศไทย
3.โครงการจัดหาน้ำบาดาลขนาดใหญ่อันเนื่องมาจากพระราชดำริ 15 โครงการ
4.การพัฒนาระบบน้ำดาบาลขนาดใหญ่ ตำบลหนองฝ้าย อำเภอเลาขวัญ จังหวัดกาญจนบุรีนำเสนอความเป็นมาของโครงการฯ
5.แบบจำลองทางภายภาพของชั้นน้ำบาดาลบริเวณพื้นที่โครงการฯ
6. แบบจำลองโครงการน้ำบาดาลขนาดใหญ่
7.เทคโนโลยีการสำรวจและเจาะน้ำบาดาล
8.วิวัฒนาการพัฒนาระบบน้ำบาดาล
9.งานอนุรักษ์และฟื้นฟูน้ำบาดาล
10.น้ำบาดาลกับการขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทย
เวลาต่อมา พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี เสด็จฯ ไปยังบริเวณทรงปลูกต้นไม้ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงปลูกต้นรวงผึ้ง จำนวน 1 ต้น และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี ทรงปลูกต้นรวงผึ้ง จำนวน 1 ต้น จากนั้นเสด็จฯ ไปทอดพระเนตรแปลงเกษตรสาธิต ทรงทอดพระเนตรกระบือตามโครงการอนุรักษ์และพัฒนากระบือไทยทอดพระเนตรอาคารบ้านน้ำดื่มที่ผลิตจากน้ำบาดาลเพื่อให้บริการฟรีแก่ประชาชน โดย นายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กราบบังคมทูลถวายรายงานว่า เมื่อปี 2562 กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม โดยกรมทรัพยากรน้ำบาดาล ได้แนวคิดมาจากแบบจำลองต้นแบบ ตู้บริการน้ำดื่มฟรีที่ตลาดโบโร่ (Borough Market) กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ จึงพัฒนามาเป็น “จุดบริการน้ำดื่มฟรี” แห่งแรกที่กรมทรัพยากรน้ำบาดาล ซึ่งปัจจุบันมีการก่อสร้างจุดบริหารน้ำดื่มฟรีกระจายอยู่ทั่วประเทศรวม 512 แห่ง ประชาชนได้รับประโยชน์กว่า 3 ล้านคน
จากนั้นเสด็จไปทรงเยี่ยมราษฎรที่มาเฝ้าฯรับสเด็จ แล้วประทับรถยนต์พระที่นั่งไปยังสนามเฮลิคอปเตอร์ชั่วคราว ประทับเฮลิคอปเตอร์พระราชพาหนะออกจากสนามเฮลิคอปเตอร์ชั่วคราว เสด็จฯ กลับ
ทั้งนี้ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมรับโครงการจัดหาน้ำบาดาลขนาดใหญ่แก้ปัญหาภัยแล้ง เป็น “โครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ” ต้นแบบ เมื่อวันที่ 16 เมษายน 2564 เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนแก่ราษฎรจากภาวะวิกฤติภัยแล้ง จำนวน 15 แห่ง กระจายอยู่ทั่วทุก “ภูมิสังคม” ของประเทศไทย ในพื้นที่ 11 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดเชียงใหม่ ลำพูน ขอนแก่น กาฬสินธุ์ นครพนม ศรีสะเกษ ฉะเชิงเทรา กาญจนบุรี นครปฐม ราชบุรี และพัทลุง เมื่อดำเนินการแล้วเสร็จทุกพื้นที่ จะมีประชาชนได้รับประโยชน์ไม่น้อยกว่า 37,600 ครัวเรือน หรือ 143,000 คน ครองคลุมพื้นที่กว่า 557,000 ไร่ ปริมาณน้ำรวม 11.1 ล้านลูกบาศก์เมตรต่อปี ช่วยประหยัดรายจ่ายให้ประชาชนกว่า 500 ล้านบาทต่อไป จากการได้มีน้ำสะอาดบริการฟรี
สำหรับโครงการจัดหาน้ำบาดขนาดใหญ่แก้ปัญหาภัยแล้งอันเนื่องมาจากพระราชดำริ ที่บ้านปากชัด หนองบัว หมู่ที่ 2 ตำบลหนองฝ้าย อำเภอเลาขวัญ จังหวัดกาญจนบุรี เป็นพื้นที่ต้นแบบของโครงการ ซึ่งเดิมประสบปัญหาขาดแคลนน้ำเป็นเวลาหลายสิบปี เป็น 1 ใน 5 อำเภอของจังหวัดกาญจนบุรี ได้แก่ อำเภอเลาขวัญ ห้วยกระเจา บ่อพลอย หนองปรือ และพนมทวน ที่ได้ชื่อว่าเป็น “อีสานภาคกลาง” เนื่องจากสภาพภูมิประเทศเป็นพื้นที่ราบเชิงเขา และเป็นพื้นที่เงาฝน ไม่มีระบบชลประทาน ประชาชนในตำบลหนองฝ้ายต้องจ้างรถบรรทุกน้ำสำหรับใช้อุปโภคบริโภคทำให้มีค่าใช้จ่ายมากกว่า 5 ล้านบาทต่อเดือนรูปแบบโครงการ ประกอบด้วย บ่อน้ำบาดาล จำนวน 8 บ่อ ความลึกเฉลี่ย 200 เมตร ถังเหล็กเก็บน้ำบรรจุ 2,000 ลูกบาศก์เมตร จำนวน 2 ถัง หอถังเหล็กเก็บน้ำชนิดรักษาแรงดันความจุ 300 ลูกบาศก์เมตร จำนวน 2 ถัง พร้อมทั้งระบบท่อกระจายน้ำ
ปัจจุบันโครงการดำเนินการแล้วเสร็จตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน พุทธศักราช 2564 และส่งมอบให้ท้องถิ่นและจังหวัดกาญจนบุรีเพื่อบริหารจัดการระบบต่อไป โดยกรมทรัพยากรน้ำบาดาลได้ก่อสร้างระบบประปาและวางท่อกระจายน้ำในพื้นที่รอบโครงการรวมระยะทาง 5.4 กิโลเมตร องค์การบริหารส่วนตำบลหนองฝ้าย เชื่อมต่อระบบประปาที่มีอยู่เดิมเพิ่มอีก 7.8 กิโลเมตร และจังหวัดกาญจนบุรีดำเนินการวางระยะท่อเพิ่มเติม 10.1 กิโลเมตร ให้ครอบคลุมพื้นที่ตำบลหนองฝ้ายทั้งหมด รวมระยะท่อส่งน้ำทั้งโครงการ 23.3 กิโลเมตร ในอนาคตจังหวัดกาญจนบุรีมีแผนจะขยายระบบกระจายน้ำเพื่อให้ครอบคลุมทั้งอำเภอเลาขวัญประชาชนจะได้รับประโยชน์ไม่น้อยกว่า 11,600 ครัวเรือน หรือ 58,000 คน ครอบคลุมพื้นที่กว่า 300,000 ไร่ ปริมาณน้ำรวม 2.3 ล้านลูกบาศก์เมตรต่อปี เพื่อให้ประชาชนได้ใช้น้ำบาดาล เป็น “น้ำเพื่อชีวิตแห่งอนาคต” นำมาซึ่งความสุขของประชาชน และคุณภาพชีวิตที่ดีอย่างยั่งยืน
ทีมข่าวกาญจนบุรี