จากสภาพร่างกายที่ปกติ แต่เจอเบาหวานขึ้นตาหมอรักษาด้วยวิธีลอกซ้ำร้ายกลับกว่าเก่าจากข้างเดียวลามไปสองข้าง สุดท้ายบอดสนิท แต่ไม่ขอโทษโชคชะตากัดฟันสู้ชีวิตหาเลี้ยงครอบครัวเหมือนคนปกติที่ภูมิใจที่สุดคือสามารถส่งลูกสาวเรียนจบระดัปริญญาตรีไปแล้วหนึ่งคน

                เจษฏา  จำปาทอง ในวัย 57 ปี พักอาศัยอยู่กับครอบครัวภรรยา และลูกสาวอีกสองคนที่บ้านเลขที่ 31/1 หมู่ 4 ต.เนินหอม อ.เมือง จ.ปราจีนบุรี ที่ดูจากภายนิกก็เหมือนกับคนปกติทั่วไป แต่ความจริง เจษฎา วันนี้ต้องกลายมาเป็นคนพิการทางสายตามองไม่เห็นมานานกว่า 8 ปี จากสาเหตุเบาหวานขึ้นตาจนฟ้าฟางตาสองข้างมองได้ไม่ปกติเป็นภาพซ้อนกว่าจะรู้ตัวอาการก็รุนแรงถึงต้องผ่าตัด คุณหมอตรวจแล้วต้องทำการอกตาเพื่อจะได้มองเห็นชัดหลังตัดสินใจนอนให้หมอผ่ากลับมาแต่อาการยังไม่ดีขึ้น ตรวจแล้วตรวจอีกเสียทั้งเงินเสียทั้งเวลาทุกอย่างยังเลวร้าย สุดท้ายหมอบอกต้องอัดแก๊สแต่ไม่เข้าใจว่ามีนคืออะไร ก็ต้องยอมทำตามหมอแนะนำ แต่ มันกลายเป็นความเลวร้ายที่สุดในชีวิตเพราะมันเกิดผลกระทบกับดวงตาอีกข้างลุกลามใหญ่โต จนทำให้ตาที่เหลือมองไม่เห็นอีกข้างถึงขณะนี้บอดสนิทตกอยู่ในโลกมืดสร้างความกังวลต่อการดำรงชีวิตอาชีพซ่อมเครื่องยนต์ รถมอร์เตอร์ไซค์ต้องหยุดโดยปริยาย โชคดีที่ได้ภรรยาและลูกคอยเป็นกำลังใจ

                   หลังเวลาผ่านไปเริ่มทำใจได้ เพราะคิดว่าขืนมานั่งเป็นทุกข์ไม่เป็นผลดีกับตัวเองและครอบครัว พยายามใช้ชีวิตแบบคนมองไม่เห็นฝึกทักษะรวมทั้งลองเครื่องไม้เครื่องมืออุปกรณ์ซ่อมเครื่องยนต์ โดยเริ่มทบทวนความคุ้นเคยในอาชีพซ่อมเครื่องจนสามารถกลับมาทำได้เหมือนเดิม แม้จะช้าลงบ้างแต่จากกำลังใจในครอบครัวและลูกค้าเก่าที่แวะเวียนมาให้ซ่อมทำให้มีกำลังใจฮึดสู้จนสามารถกลับมาซ่อมแซมเครื่องยนต์ได้เหมือนก่อนที่ตายังมองเห็นทำให้ชีวิตกลับมามีความสุขเหมือนเดิม จะลำบากบ้างก็ตอนต้องไปหาซื้ออะไหล่ซึ่งต้อพึ่งภรรยาพาไป แต่สิ่งบที่ภูมิใจที่สุด คือแม้ตามองไม่เห็นแต่ก็ยังสารมารถส่งเสียลูกสาวจนเรียนจบระดับปริญญาตรีไปแล้วหนึ่งคนซึ่งเปรียบเหมือนรางวัลชีวิต

              ช่างเจษฏา บอกขณะกำลังซ่อมเครื่องตัดหญ้าที่ลูกค้านำมาให้ซ่อมว่า เครื่องตัดหญ้าพวกนี้ราคาไม่กี่พันแต่เจ้าของนำไปให้น้านค้าซ่อมคิดราคาครึ่งหนึ่งของเครื่องใหม่บาวทีทิ้งไว้เป็นปีสองปีก็ยังไม่ซ่อมให้ซึ่งมันเกินไปจึงนำมาให้ตนซ่อมซึ่งไม่น่าเสียหายอะไร ตนใช้เวลาไม่นานแค่เปลี่ยนอุปกรณ์บางชิ้นกับหัวเทียนหัวเดียวก็เอาไปใช้ได้ ค่าของค่าแรงแค่ 200 บาท

              ลุงทองแดง  ปล้องทอง อายุ 76 ปี วันนี้ขับรถจักรยานยนต์นำเครื่องตัดหญ้าแบบสะพายมาให้ช่าง เจษฏา ช่วยดูแลเพราะเครื่องยนต์ไม่ดีสะดุดบางครั้งดับใช้งานไม่ได้ ลุงทองแดงบอกว่า ตนเป็นขาประจำกับช่างเจษฏา มีปัญหาเรื่องเครื่องยนต์ก็จะมาให้ทำ เพราะเชื่อใจทำให้ได้ทุกอย่างราคาไม่แพง ยอมรับว่าเป็นคนเก่ง อารมย์ดียิ้มแย้มแม้ตอนนี้จะมองไม่เห็นแต่ก็ยังเก่งเหมือนเดิม ถ้าจะเปรียบเที่ยบแล้วคิดว่าเก่งกว่าเดิม คนตาดีบางคนยังสู้ไม่ได้แถมยังคิดราคาแพงอีกด้วย คนทั้งหมู่บ้านหรือใกล้ไกลก็จะให้ช่างเจษฏา ซ่อมเครื่องยนต์รถจักรยานยนต์ให้จนเป็นขาประจำกันไปแล้ว

ทีมข่าวปราจีนบุรี