พลอากาศเอก คณิต สุวรรณเนตร ประธานคณะกรรมาธิการขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ ด้านสื่อสารมวลชน กล่าวถึงการพิจารณาศึกษาร่าง พ.ร.บ.คุ้มครองสิทธิเสรีภาพ ส่งเสริมจริยธรรมและมาตรฐานวิชาชีพสื่อมวลชน โดยยืนยันหลักการที่ต้องมีใบอนุญาตประกอบวิชาชีพสื่อมวลชน เพื่อให้มีการดูแลอย่างทั่วถึงและเป็นระบบ ซึ่งผู้ประกอบวิชาชีพสื่อในขณะนี้ จะได้รับใบอนุญาตทุกคนอยู่แล้วตามบทเฉพาะกาล แต่บุคคลที่จะเข้ามาประกอบวิชาชีพหลังกฎหมายบัญญัติก็จะมีการปฐมนิเทศและกระบวนการก่อนได้ใบประกอบวิชาชีพ เพราะควรจะมีการอบรมและกฎกติกา
ส่วนการกำหนดให้มีสภาวิชาชีพสื่อมวลชนแห่งชาติ พลอากาศเอกคณิต กล่าวว่า ได้มีการปรับสัดส่วนกรรมการในสภาที่เป็นตัวแทนจากสื่อมวลชน จากเดิม 5 คน เป็น 7 คน จากทั้งหมด 15 คน ยืนยันว่าจะไม่มีการครอบงำจากสัดส่วนที่มาจากรัฐ ส่วนข้อคัดค้านจากองค์กรสื่อ ก็มองว่าเป็นเรื่องที่มองต่างกันได้
ด้านพลตำรวจตรี พิสิษฐ์ เปาอินทร์ รองประธานคณะกรรมาธิการฯ ย้ำด้วยว่า ในร่างกฎหมายฉบับนี้ มีบทบัญญัติที่ว่าด้วยการคุ้มครองผู้ประกอบวิชาชีพสื่อมวลชนว่า จะต้องมีสิทธิเสรีภาพในการนำข้อมูลข่าวสารสู่ประชาชนตามที่รัฐธรรมนูญกำหนดไว้ ส่วนองค์กรสื่อ องค์การ และสภาวิชาชีพ มีหน้าที่แค่กำกับดูแลการประกอบวิชาชีพให้เป็นไปตามจริยธรรมที่กำหนดไว้ พร้อมย้ำถึงสัดส่วนสภาวิชาชีพฯ ทั้งหมดจำนวน 15 คน ประกอบด้วยด้านสื่อมวลชน 7 คน ด้านภาครัฐ 2 คน คือปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี และปลัดกระทรวงวัฒนธรรม ตัวแทนจากคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ และองค์กรคุ้มครองผู้บริโภคอย่างละ 1 คน และให้ทั้งหมดร่วมกันเลือกตัวแทนจากภาคประชาชนอีก 4 คน
พลอากาศเอก คณิต กล่าวด้วยว่า การพิจารณาเรื่องนี้ใช้เวลานาน เนื่องจากอยากให้เกิดความรอบครอบและศึกษาให้ละเอียด รวมถึงได้ทำหนังสือถามเอกอัครราชทูตประเทศต่างๆ และช่องทางอื่นๆ เพื่อศึกษาว่าแต่ละประเทศทั่วโลก มีโครงสร้างแนวคิดอย่างไร และนำมาปรับให้เข้ากับประเทศไทย ซึ่งขณะนี้ตัวร่างเสร็จแล้ว เหลือปรับแก้ถ้อยคำเท่านั้น คาดว่าน่าจะกลางเดือนหรือปลายเดือนเมษายน หรือต้นพฤษภาคม น่าจะนำเข้าสู่ที่ประชุมใหญ่สภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ หรือ สปท. ให้พิจารณา