แรงงานต่างด้าวทะลักชายแดนจังหวัดตากแบบรายชั่วโมง ทหารพรานตรึงเข้มตลอดแนวชายแดนล่าสุดสกัดจับกลุ่มขบวนการขนแรงงานต่างด้าวได้สองคันรถยนต์ของกลางสองคัน พร้อมแรงงานต่างด้าวอัดแน่นเป็นปลากระป๋อง36 คนแรงงานต้องเสียค่านายหน้ารายละ 23000 บาทปลายทางภาคกลางของไทย

พันเอก จักรพงษ์ เทพพันธุ์ ผบ.ฉก.ทพ.35 นำกำลังชุดเคลื่อนที่เร็วกองร้อยทหารพรานที่ 3508 พร้อมด้วยตำรวจตระเวนชายแดนที่ 344 ท่าสองยาง ตำรวจ สภ.แม่เมย อำเภอท่าสองยาง จังหวัดตากและฝ่ายที่เกี่ยวข้องร่วมกันนำกำลังพร้อมอาวุธครบมือเข้าลาดตระเวนบนเส้นทางแม่เหว่ยโพคี หมู่ที่ 4 ตำบลแม่วะหลวง อำเภอท่าสองยาง จังหวัดตาก หลังเจ้าหน้าที่ชุดการข่าวทหารพรานสืบทราบจะมีกลุ่มนายหน้าคนไทยจะใช้เส้นทางดังกล่าวลักลอบขนแรงงานต่างด้าวผิดกฎหมายเข้ามาในพื้นที่อำเภอท่าสองยาง จังหวัดตากเพื่อจะขนส่งต่อไปที่ภาคกลางของประเทศไทย

จนเวลาต่อมาเจ้าหน้าที่ทหารพรานและตำรวจที่ดักซุ่มช่วงเนินเขาจากแนวชายแดนได้ตรวจพบรถยนต์กระบะจำนวนสองคันขับมาด้วยความเร็วสุงทั้งที่เป็นเส้นทางภูเขาจุดอันตรายและคาดว่าคนขับเป็นคนชำนานในเส้นทางเจ้าหน้าที่จึงตั้งด่านสกัดตรวจสอบและทันทีที่คนขับรถทั้งสองคันพบด่านตรวจของเจ้าหน้าที่กลางช่องเขาคนขับรถทั้งสองคันพยายามจะเร่งเครื่องรถหนีแต่หนีไม่รอดและเมื่อรถยนต์ทั้งสองคันจอดนิ่งเจ้าหน้าที่จึงรีบเข้าไปตรวจสอบพบรถยนต์กระบะยี่ห้อโตโยต้า สีดำ หมายเลขทะเบียน ยต-8284 เชียงใหม่ โดยชายคนขับรถยนต์คันนี้ได้ทิ้งรถยนต์แล้ววิ่งหนีเข้าไปในป่าแล้วหายไปกับความมืดขณะที่ด้านท้ายกระบะและภายในห้องโดยสารรถยนต์พบแรงงานต่างด้าวผิดกฎหมายสัญชาติเมียนมาซุกซ่อนตัวในรถคันดังกล่าวจำนวน 18คน ส่วนรถยนต์อีกคันเป็นรถยนต์กระบะยี่ห้ออีซูซุ สีขาว ไม่ติดแผ่นป้ายหมายเลขทะเบียน ภายในรถพบตัวนายสมคิด ไกลขจรกุล อายุ 26 ปีชาวอำเภอท่าสองยางเป็นคนขับรถและยังพบตัวนายสมบัติ กมลวรรณพนา อายุ 31 ปีเป็นคนคุมรถนั่งมาด้วยขณะที่ด้านท้ายรถยนต์กระบะคันนี้พบแรงงานต่างด้าวผิดกฎหมายสัญชาติเมียนมานอนเบียดเสียดอย่างแออัดจนอัดแน่นเป็นปลากระป๋องจำนวน 18 คนเจ้าหน้าที่จึงนำตัวทั้งคนนำพาคนไทยจำนวน 2 คนและแรงงานต่างด้าวที่แอบซ่อนตัวมากับรถยนต์ทั้งสองคันรวมจำนวน 36 คนควบคุมตัวไปสอบสวนขยายผลในพื้นที่ปลอดภัยพร้อมนำตัวทั้งหมดไปตรวจหาเชื้อโควิด-19 ซึ่งผลตรวจไม่พบกลุ่มขบวนการกลุ่มนี้ติดเชื้อโควิด-19 ท่ามกลางความโล่งใจของเจ้าหน้าที่ชุดจับกุม

จากการสอบสวนหนึ่งในผู้ต้องหาคนไทยได้ให้ข้อมมูลเบื้องต้นว่า กลุ่มของตนเองทั้งสามคนซึ่งหลบหนีไปได้หนึ่งคนนั้นมีอาชีพทำไร่และขนาดนี้งานเกษตรกรรมประสบปัญหาค่าปุ๋ยแพงมากและราคาน้ำมันกำลังพุ่งสุงรายได้น้อยลงไม่พอใช้กลุ่มของตนเองทั้งสามคนจึงได้รับการว่าจ้างจากหัวหน้าขบวนการไม่ทราบชื่อที่แน่นอนให้มารับจ้างขับรถขนส่งแรงงานต่างด้าวทั้งหมดทั้ง 36 คนโดยขนมาจากช่องทางธรรมชาติแนวชายแดนและจะนำไปส่งที่หัวเมืองชั้นในของภาคกลางโดยได้รับค่าขนส่งหัวละ 500 บาทส่วนแรงงานทั้งหมดจะต้องจ่ายค่านายหน้าแบบเหมาจ่ายสุงถึงหัวละ 23000 บาทเป็นขั้นต่ำแต่การลักลอบขนแรงงานผิดกฎหมายครั้งนี้ไปไม่รอดถูกจับเสียก่อนที่จะได้ใช้เงิน ซึ่งล่าสุดเจ้าหน้าที่ได้ควบคุมตัวผู้นำพาทั้งสองคนและแรงงานต่างด้าวผิดกฎหมายทั้ง 36 คนส่งตัวไปดำเนินคดีตามกฎหมายที่ สภ.แม่เมย อำเภอท่าสองยาง จังหวัดตาก ซึ่งสถานการณ์ล่าสุดพบว่ายังคงมีแรงงานต่างด้าวผิดกฎหมายอีกจำนวนมากจ่อทะลักและพร้อมที่จะลักลอบข้ามแนวชายแดนจังหวัดตาก โดยมาแบบมีกลุ่มขบวนการให้การช่วยเหลือและมีการขนส่งลำเลียงข้ามแนวชายแดนมาแบบรายวันจนทำให้เจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่งคง 5 อำเภอแนวชายแดนจังหวัดตาก ซึ่งมีพื้นที่ติดกับประเทศเมียนมาต้องตรึงกำลังตรวจเข้มและตั้งจุดตรวจทั้งในเขตเมืองและในเขตพื้นที่ป่าภูเขาเขตรอยต่อในทุกเส้นทางทุกจุดตลอด 24 ชั่วโมง

ทีมข่าว จ.ตาก