นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ เปิดเผยว่า เช้าวันนี้ตนส่งหนังสือถึง มท.1 ไปทางไปรษณีย์ EMS เพื่อขอให้ใช้อำนาจตาม พ.ร.บ.กปน. พ.ศ.2510 มาตรา 19 เพื่อดำเนินการให้ยกเลิกมติคณะ กก.กปน.ครั้งที่ 3/2565 เรื่องที่ 2 ซึ่งมีมติไปเมื่อวันที่ 25 กุมภาพันธ์ 2565
นายเรืองไกรกล่าวว่า ต่อมา เมื่อวันที่ 21 เมษายน 2565 คณะกรรมการวินิจฉัยอุทธรณ์มีหนังสือแจ้งให้ กปน.กลับไปดำเนินการเรื่องการประมูลโรงงานผลิตน้ำมหาสวัสดิ์ให้ถูกต้องไปแล้วนั้น
นายเรืองไกรกล่าวว่า ประกอบกับมติคณะ กก.กปน.ครั้งที่ 3/2565 เรื่องที่ 2 ดังกล่าว ก็มีเงื่อนไขระบุว่าให้รอผลการพิจารณาของคณะกรรมการวินิจฉัยอุทธรณ์ด้วย
นายเรืองไกรกล่าวว่า คำวินิจฉัยดังกล่าวจึงมีผลทำให้การลงนามในสัญญาตามที่บอร์ด กปน.มีมตินั้นจะกระทำไม่ได้ ต้องกลับไปทำตามคำวินิจฉัยก่อน แต่กลับยังไม่เห็นการดำเนินการใดๆ จาก กปน. จึงมีเหตุอันควรสงสัยว่าอาจจะมีขบวนการดื้อแพ่งไม่ดำเนินการตามขั้นตอนให้ถูกต้อง ทั้งนี้ เห็นได้จากการออกข่าวแสดงความเห็นในเชิงโต้แย้งคำวินิจฉัยดังกล่าว
นายเรืองไกรกล่าวว่า ดังนั้น หากปล่อยให้โครงการนี้ดำเนินการต่อไปได้โดยไม่มีการกลับไปทำให้ถูกต้องตามคำวินิจฉัยก็อาจทำให้รัฐเสียหายถึง 250 ล้านบาท และเชื่อว่า ข่าวคราวเรื่องการประมูลโครงการผลิตน้ำมหาสวัสดิ์ไม่ถูกต้องตามคำวินิจฉัยนี้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยต้องรู้หรือควรรู้อยู่แล้ว
นายเรืองไกรกล่าวว่า แต่เพื่อให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยรับรู้อย่างเป็นทางการและไม่อาจปฏิเสธว่ายังไม่ทราบ จึงต้องส่งหนังสือแจ้งให้ทราบ รวมทั้งขอให้ใช้อำนาจตาม พ.ร.บ.การประปานครหลวง มาตรา 19 สั่งการต่อไป
นายเรืองไกรสรุปว่า กรณีจึงมีความจำเป็นต้องส่งเรื่องอย่างเป็นทางการให้ มท.1 ทราบและพิจารณาสั่งการยกเลิกมติบอร์ดดังกล่าวต่อไป
เคสผลิตน้ำมหาสวัสดิ์