พล.ต.ต.จิรสันต์ แก้วแสงเอก รอง ผบช.น. ในฐานะโฆษก บช.น.พร้อมด้วย พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รอง โฆษก ตร. ร่วมเปิดเผยการเตรียมความพร้อมเกี่ยวกับสถานการณ์การชุมนุมของกลุ่มเห็นต่างทางการเมือง พล.ต.ต.จิรสันต์ เปิดเผยว่า สถานการณ์ชุมนุมในพื้นที่กรุงเทพฯจากข้อมูลด้านการข่าวมีชุมนุมจำนวน 8 กลุ่ม กลุ่มที่พักค้างแรมมี 2 กลุ่ม คือ กลุ่มคณะปฏิรูปยุทธศาสตร์แห่งราชอาณาจักรไทยสยาม (คปยส.) บริเวณใต้สะพานพระราม 8 และ กลุ่มสภาประชาชนแห่งชาติสภาประชาชนแห่งโลก บริเวณหน้าสถานทูตรัสเซีย และกลุ่มผู้ชุมนุมฯ จุดอื่นๆ มี 6 กลุ่ม ประกอบด้วย กลุ่มคณะกรรมการสมานฉันท์แรงงานไทย (คสรท.) และกลุ่มแนวร่วม รวมตัวบริเวณอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย และจะเดินทางไปทำเนียบรัฐบาล เวลา 08.00 น., กลุ่มเครือข่ายแรงงานเพื่อสิทธิประชาชน และกลุ่มแนวร่วม บริเวณทำเนียบรัฐบาล เวลา 08.00 น., กลุ่มผู้ชุมนุมชาวยูเครน บริเวณสถานทูตรัสเซีย เวลา 14.00 น., กลุ่มสหภาพคนทำงาน และกลุ่มแนวร่วมบริเวณแยกราชประสงค์ และจะเดินทางไปยังหอศิลป์กรุงเทพฯ เวลา 16.00 น., กลุ่มศิลปินเพลงเพื่อราษฎร บริเวณเรือนจำกรุงเทพ, กลุ่มทะลุคุก บริเวณอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ เวลา 18.00 น. เป็นต้นไป ส่งผลกระทบเส้นทางที่อาจได้รับผลกระทบจากการชุมนุมฯ ถ.พิษณุโลก (แยกนางเลิ้ง – แยกสวนมิสกวัน) ถ.พระราม 5 (แยกพาณิชยการ – แยกวัดเบญจ) ถ.ราชดำเนินนอก (แยกมัฆวานฯ – แยกสวนมิสกวัน) ถ.ราชดำเนินกลาง (แยกคอกวัว – แยกผ่านฟ้า) ส่วนแยกราชประสงค์ ถ.ราชดำริ (แยกราชดำริ – แยกประตูน้ำ) ถ.พระราม1 (แยกเฉลิมเผ่า – แยกราชประสงค์) ถ.เพลินจิต (แยกราชประสงค์ – แยกชิดลม) ถ.พญาไท (แยกราชเทีวี – จุฬาซอย 12)

พล.ต.ต.จิรสันต์ กล่าวอีกว่า พล.ต.ท.สำราญ นวลมา ผบช.น. จัดเตรียมกำลังพลและยุทโธปกรณ์ เพื่อเข้าดำเนินการรักษาความสงบเรียบร้อยในการชุมนุมฯ ดังกล่าว โดยเน้นย้ำให้ปฏิบัติภายใต้กรอบกฎหมาย และคำนึงถึงความปลอดภัยของประชาชนเป็นหลัก สำหรับการปฏิบัติเพื่อรักษาความสงบเรียบร้อย เมื่อวันที่ 30 เม.ย. กลุ่มคณะปฏิรูปยุทธศาสตร์แห่งราชอาณาจักรไทยสยาม (คปยส.), กลุ่มสภาประชาชนแห่งชาติ สภาประชาชนแห่งโลก กลุ่มศิลปินเพลงเพื่อราษฎร และกลุ่มทะลุคุก เป็นไปด้วยความเรียบร้อย ทั้งนี้ การดำเนินการทางกฎหมาย ตั้งแต่เดือน กรกฎาคม 2563 จนถึงปัจจุบันมี คดีที่เกี่ยวข้องกับการชุมนุมฯในเขตพื้นที่กรุงเทพมหานคร จำนวนทั้งสิ้น 837 คดี ขณะนี้สอบสวนเสร็จสิ้นและสั่งฟ้องไปแล้ว 480 คดี อยู่ระหว่างดำเนินการสอบสวน 357 คดี

พล.ต.ต.จิรสันต์ กล่าวอีกว่า ส่วนการชุมนุม 8 กลุ่ม ขณะนี้มีกลุ่มที่ก่อความวุ่นวายมาร่วมกิจกรรมแต่เจ้าหน้าที่ควบคุมได้อยู่ ส่วนอีกไม่กี่เดือนจะครบรอบการชุมนุมช่วงกรกฎาคม 2565 นั้น การเตรียมความพร้อมของเจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินการเต็มอัตรา ดำเนินการเพิ่มความเข้มด้านการข่าว กฎหมาย การป้องกัน สร้างความเข้าใจกับมวลชนที่มาเคลื่อนไหว หากมีกลุ่มอื่นเข้ามาสร้างความวุ่นวายให้แกนนำประสานงานเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ ยืนยันว่าควบคุมสถานการณ์ได้ เมื่อเกิดเหตุพร้อมรักษาความปลอดภัยได้ตลอดเวลา

ด้าน พ.ต.อ.กฤษณะ กล่าวว่า กรณีการชุมนุมที่เกิดขึ้นตั้งแต่เดือนกรกฎาคม 2563 นั้น มีการชุมนุม 3,000 กว่าครั้ง ดำเนินคดีกว่า 1,280 ครั้ง มีทั้งการจัดกิจกรรมทางการเมือง มีวัตถุประสงค์ทางการเมือง และชุมนุมเรื่องปากท้องให้รัฐบาลแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจ ซึ่งการปฏิบัติหน้าที่นั้น ตำรวจมีความจำเป็นต้องดำเนินการเพื่อรักษาความสงบเรียบร้อย หากไม่กระทำผิดกฎหมายตำรวจก็จะไม่มีการดำเนินคดี ส่วนการเตรียมความพร้อมสำหรับการเลือกตั้งผู้ว่ากรุงเทพมหานคร วันที่ 22 พฤษภาคม ผู้รับผิดชอบคือ บช.น. มีการร้องขอให้ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) ส่งกำลัง 18,000 นาย มาปฏิบัติหน้าที่ ซึ่งการนำกำลังตำรวจเข้ามานั้น ไม่ได้เป็นการจับผิดฝั่งตรงข้ามรัฐบาลแต่อย่างใด แต่เป็นเพราะมีการเลือกตั้งผู้ว่าและเลือกตั้งส.ก. จึงต้องเตรียมพร้อมไว้