พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวถึงการพิจารณาการจัดซื้อเรือดำน้ำของคณะรัฐมนตรี ว่า เป็นการอนุมัติตั้งแต่ก่อนที่ตนเองจะหยุดราชการ และคณะรัฐมนตรีก็รับรู้ทั้งหมด ไม่ได้เป็นการอนุมัติเงียบ ส่วนเหตุผลที่ไม่มีการชี้แจงหลังจากมีมติคณะรัฐมนตรีนั้น เนื่องจากเป็นเอกสารลับ แต่ยืนยันว่าพร้อมชี้แจงตลอดอยู่แล้ว และเมื่อถึงเวลาประชาชนจะทราบเอง เช่นเดียวกับเรื่องรถถังที่อนุมัติไปแล้ว 1-3 เดือนถึงจะทราบเรื่อง ซึ่งในกรณีเรือดำน้ำก็ใช้เวลา 9 ปีกว่าจะอนุมัติตามยุทธศาสตร์ของกองทัพเรือที่มีการวางแผนมานานแล้ว
พร้อมกันนี้ พล.อ.ประวิตร ยืนยันว่า การจัดซื้อเรือดำน้ำมีความจำเป็นเพื่อนรักษาทรัพยากรทางทะเลของประเทศ ซึ่งในการจัดซื้อจัดหาทำด้วยความโปร่งใสโดยใช้งบประมาณจัดซื้อ 3.6 หมื่นล้านบาท เป็นงบประมาณต่อเนื่องตามแผนพัฒนากองทัพเรือไม่ได้ใช้งบกลางแต่อย่างใด โดยเรือดำน้ำ 1 ลำ จะใช้เวลา 6 ปี ก่อนส่งมอบให้ไทย และจะได้ครบทั้ง 3 ลำในระยะเวลา 11 ปี ซึ่งในการจัดซื้อนี้ไม่มีการกำหนดเงื่อนไขพิเศษแต่อย่างใด
พล.อ.ประวิตร กล่าวถึงการประชุมคณะรัฐมนตรี หรือ ครม. ยืนยันว่ายังไม่มีการปรับคณะรัฐมนตรีในช่วงนี้ แต่หากมีการปรับจริงและตนเองเป็นหนึ่งในนั้น จะพร้อมที่จะออกจากตำแหน่งโดยไม่รู้สึกน้อยใจ เพราะขณะที่อายุ 72 ปีแล้ว ขณะเดียวกันยังระบุว่า ไม่ทราบว่าในที่ประชุม ครม. วันนี้จะมีการหารือถึงหมายกำหนดการงานพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช หรือไม่ ขอให้รอฟังการแถลงที่ชัดเจนภายหลังครม.อีกครั้ง
พร้อมกันนี้ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวถึงการร้องเรียนว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจจังหวัดแม่ฮ่องสอนมีส่วนเกี่ยวข้องกับการค้าประเวณีว่า ได้มีการสั่งย้ายเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ถูกร้องเรียนออกมาก่อนแล้ว
ยืนยันว่าอะไรที่ผิดกฏหมายจะดำเนินคดีทั้งหมด ซึ่งรัฐบาลทำตามกฏหมายทุกอย่างไม่มีเหลื่อมล้ำ