นายสุทธิศักดิ์ ตันตะโยธิน รองเลขาธิการคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (รองเลขาธิการ กสทช.) กล่าวว่า ที่ประชุม กสทช. พิจารณาเห็นว่าปัจจุบันปัญหาแก๊ง Call Center หลอกลวง สร้างความเดือดร้อนให้กับประชาชน ก่อให้เกิดความรำคาญและความเสียหายอื่น ๆ รวมทั้งเสียทรัพย์สินเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ ทั้งมิจฉาชีพเองก็มีการเปลี่ยนแปลงรูปแบบการหลอกลวงอย่างรวดเร็ว มีวิธีการซับซ้อนมากขึ้น การไล่ตามรูปแบบการหลอกลวงต่าง ๆ ให้ทันเป็นเรื่องยากกสทช. จึงเร่งออกมาตรการใหม่คือ SCAM Alert ที่เป็นการรวบรวมตัวอย่างการฉ้อโกงผ่านระบบโทรศัพท์เคลื่อนที่และสื่ออิเล็กทรอนิกส์ วิธีการแก้ไขเฉพาะหน้า และหน่วยงานที่ต้องติดต่อเพื่อตรวจสอบ หรือขอความช่วยเหลือ หรือร้องเรียน เพื่อสื่อสารกับประชาชนอย่างเร่งด่วน

‘กสทช.เห็นถึงความสำคัญในเรื่องนี้ ประกอบกับกฎหมายให้อำนาจ ในการกำหนดมาตรการคุ้มครองสิทธิของผู้ใช้บริการโทรคมนาคมเกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคล สิทธิความเป็นส่วนตัว และเสรีภาพในการสื่อสารถึงกัน’

และเพื่อประโยชน์ในการคุ้มครองสิทธิดังกล่าว ตามมาตรา 32 พ.ร.บ.องค์กรจัดสรรคลื่นความถี่ฯ พ.ศ. 2553 และที่แก้ไขเพิ่มเติมประกอบมาตรา 50 พ.ร.บ.การประกอบกิจการโทรคมนาคม พ.ศ. 2544 จึงมอบหมายให้สำนักงาน กสทช. จัดทำระบบ SCAM Alert โดยด่วนที่สุด เพื่อเป็นข้อมูลและสร้างความตระหนักรู้แก่ผู้บริโภค เพื่อให้ประชาชนรู้เท่าทันรูปแบบการหลอกลวงที่มีวิธีการใหม่ ๆ

นายสุทธิศักดิ์กล่าวถึงความร่วมมือในการดำเนินการจัดการกับแก๊ง Call Center และการแก้ไขปัญหาเรื่อง SMS หลอกลวงด้วยว่าได้ทำร่วมกับกองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บช.สอท.) สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) ผู้ให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ทุกราย

ได้แก่ AIS TRUE DTAC และ NT รวมถึงผู้ให้บริการโทรศัพท์ระหว่างประเทศ (IDD) ก่อนหน้านี้ ก็ยังเร่งดำเนินการ โดยขณะนี้ทุกฝ่ายมีการเปิดรับเบาะแสข้อมูลจากประชาชนเพื่อปรับการทำงานให้เท่าทันกลโกงของมิจฉาชีพ สามารถนำการแจ้งเหตุไปรวบรวมในฐานข้อมูล SCAM Alert ตลอดจนนำไปสู่การดำเนินคดี และการแก้ไขปัญหาแก๊ง Call Center ได้

“ด้วยรูปแบบการหลอกลวงที่ปรับเปลี่ยนไปอย่างรวดเร็ว การป้องกันที่ดีที่สุดคือการเสริมแรงให้ประชาชนผ่านข้อมูลที่ทันสมัย เป็นปัจจุบันเกี่ยวกับรูปแบบกลโกงต่าง ๆ เพื่อสร้างการรู้เท่าทันอย่างมีประสิทธิภาพ” นายสุทธิศักดิ์กล่าว