ปากเสียงของคนท้องถิ่น เพื่อการพัฒนาประเทศ
คุณภาพชีวิต ย้อนกลับ
ฑูตบาห์เรนพบก.แรงงานต่อยอดส่งแรงงานไทย
18 พ.ค. 2565

นายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน มอบหมายให้ นายสุรชัย ชัยตระกูลทอง ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงแรงงาน ให้การต้อนรับ นางสาวมุนา อับบาส มะฮ์มูด รอฏี (H.E. Ms. Muna Abbas Mahmood Radhi) เอกอัครราชทูตวิสามัญผู้มีอำนาจเต็มแห่งราชอาณาจักรบาห์เรนประจำประเทศไทย และคณะ ในโอกาสเข้าพบรัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงานเพื่อหารือการขยายตลาดแรงงานในประเทศบาห์เรน การอำนวยความสะดวกด้านวีซ่าสาหรับแรงงานไทย มาตรการของทางบาห์เรนในการป้องกันและแก้ไขปัญหาแรงงานผิดกฎหมาย และการประชาสัมพันธ์นักธุรกิจและนักลงทุนเข้ามาดำเนินกิจการในไทย โดยมี ดร.ทองอยู่ คงขันธ์ คณะที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน พลอากาศตรี เฟื่องศักดิ์ เรืองกล คณะที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน นายสมาสภ์ ปัทมะสุคนธ์ ผู้ช่วยปลัดกระทรวงแรงงาน และคณะผู้บริหารระดับสูงสังกัดกระทรวงแรงงาน ร่วมให้การต้อนรับ ณ ห้องจัตุมงคล ชั้น 6 อาคารกระทรวงแรงงาน
นายสุรชัย กล่าวว่า กระทรวงแรงงานยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ประเทศไทยและประเทศบาห์เรน มีความสัมพันธ์ฉันท์มิตรประเทศที่ดีต่อกันมาอย่างยาวนานตลอดระยะเวลา 45 ปี ปัจจุบันมีแรงงานไทยในบาห์เรนจำนวนประมาณ 1,000 คน ทำงานในภาคบริการ ภาคอุตสาหกรรม และภาคพาณิชยกรรม และมีโอกาสที่เพิ่มมากขึ้นในอนาคตข้างหน้า ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจและตอบสนองนโยบายในการพัฒนาประเทศของบาห์เรน ซึ่งกระทรวงแรงงานขอขอบคุณประเทศบาห์เรนที่ได้ให้การดูแลแรงงานไทยเป็นอย่างดี ทั้งนี้ รัฐบาลไทยและกระทรวงแรงงานพร้อมร่วมมือและสนับสนุนการทำงานของท่านเอกอัครราชทูตอย่างเต็มที่ เพื่อเสริมสร้างความสัมพันธ์ในด้านแรงงานระหว่างประเทศไทยและบาห์เรนให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น เพื่อประโยชน์ในการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมของทั้งสองประเทศ และร่วมมือกันในการฝ่าฟันกับภาวะวิกฤตโควิด – 19 ไปด้วยกัน
“กระทรวงแรงงานขอขอบพระคุณท่านเอกอัครราชทูตฯ และคณะ ที่ได้มาเยี่ยมคารวะ และให้ความสำคัญสนใจหารือกับกระทรวงแรงงานในวันนี้ โดยนับเป็นการกระชับและเชื่อมโยงความสัมพันธ์ด้านแรงงานระหว่างประเทศทั้งสองประเทศให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น” นายสุรชัย กล่าวในท้ายสุด

หนังสือพิมพ์ OPT NEWS ONLINE
วันที่ 16 - 31 มีนาคม 2567
อปท.เชิญเป็นแขก ดูทั้งหมด
27 ธ.ค. 2566
แพทย์ พยาบาล หรือบุคลากรทางการแพทย์ เป็นอาชีพที่ต้องเสียสละตนเองเพื่อผู้อื่น ไม่เพียงต้องดูแลรักษาผู้ป่วยตามหลักการทางการแพทย์เท่านั้น แต่ต้องเข้าใจและเข้าถึงจิตใจของผู้ป่วยอย่างแท้จริงอีกด้วย ดังนั้น ผู้ที่จะทำงานอาชีพนี้ ต้องมีหัวใจและอุดมการณ์ที่มีความเสียส...