มีความเคลื่อนไหวการช่วงชิงอำนาจในสภากรุงเทพมหานครทันที หลังผลการนับคะแนนการเลือกตั้งสมาชิกสภากรุงเทพมหานคร(ส.ก) เสร็จสิ้นไปแล้วโดยพรรคเพื่อไทยได้เก้าอี้ส.ก.มากที่สุดคือ 20 เก้าอี้ ให้ทางแกนนำพรรคเพื่อไทย และว่าที่ส.ก.เพื่อไทย เริ่มเคลื่อนไหวในเรื่องการวางตัวบุคคลจะมาเป็นประธานสภากทม.ทันที เพราะเห็นว่าเพื่อไทยได้ที่นั่งส.ก.มากที่สุด ดังนั้นประธานสภากทม.ควรเป็นโควต้าของพรรคเพื่อไทย แต่ปรากฏว่า พรรคก้าวไกล ที่ได้ส.ก.มา 14 คน พอทราบข่าวดังกล่าว ก็เริ่มเคลื่อนไหวเช่นกัน เพราะว่าที่ส.ก.ก้าวไกลบางส่วนมองว่า หากรวมเสียงส.ก.ในสภากทม.ได้เกินกึ่งหนึ่ง แล้วดันว่าที่ส.ก.ของพรรคก้าวไกล ลงชิงประธานสภากทม. ก็อาจโหวตชนะเพื่อไทยก็ได้ ทำให้ต้องจับตากำลังเริ่มเกิดปัญหาเกาเหลาระหว่าง พรรคเพื่อไทยกับพรรคก้าวไกลขึ้นในการชิงเก้าอี้ประธานสภากทม.และรองประธานสภากทม.

           มีรายงานจากพรรคเพื่อไทยแจ้งว่า ขณะนี้ว่าที่ส.ก.บางส่วนของเพื่อไทย โดยเฉพาะสายฝั่งธนบุรี ต้องการจะผลักดันแคนดิเดตประธานสภากทม. โดยมีชื่ออยู่ในลิสต์สองชื่อคือ สุทธิชัย วีรกุลสุนทร ว่าที่ส.ก.เขตจอมทองหรือเฮียล้าน ที่ย้ายมาจากประชาธิปัตย์และมีดีกรีเป็นอดีตประธานสภากทม. หรือไม่ก็ นวรัตน์ อยู่บำรุง ว่าที่ส.ก.เขตหนองแขม คนใดคนหนึ่งเพราะถือว่ามีอาวุโส มีประสบการณ์ในสภากทม.มายาวนาน แต่ปรากฏว่า นางพวงเพ็ชร ชุณละเอียดหรือเจ๊แจ๋น ผอ.เลือกตั้งส.ก.เพื่อไทย จะผลักดัน วิรัตน์ มีนชัยนันท ว่าที่ส.ก.มีนบุรี น้องชาย วิชาญ มีนชัยนันท์ ประธานภาคกทม. อดีตส.ส.กทม.หลายสมัย เป็นประธานสภากทม. ทำให้อาจต้องมีการเคลียร์กันภายใน เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาขึ้นในกลุ่มส.ก.เพื่อไทย

          ขณะเดียวกันก็มีข่าวว่า ฝ่ายพรรคก้าวไกล ที่ได้ส.ก.มา 14 คน ก็มีกระแสข่าวว่า ว่าที่ส.ก.บางส่วนของก้าวไกล ก็มีการมองกันว่า หากรวมเสียงว่าที่ส.ก.กันได้เกินกึ่งหนึ่ง ก็ควรเสนอชื่อว่าที่ส.ก.ของพรรคก้าวไกล ลงชิงประธานสภากทม. โดยให้เหตุผลว่าเพื่อไปทำหน้าที่ฝ่ายตรวจสอบ การทำงานของชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าฯกทม. จนมีกระแสข่าวว่า อาจไปพูดคุยกับว่าที่ส.ก.จากพรรคและกลุ่มอื่นเช่น ไทยสร้างไทย ของคุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ที่ได้ส.ก.มาสองคน รวมถึงว่าที่ส.ก.จากกลุ่มรักษ์กรุงเทพและพรรคประชาธิปัตย์ ที่ได้ส.ก.มา 9 ที่นั่งว่าเห็นด้วยกับแนวทางนี้หรือไม่ เพราะตอนนี้ ว่าที่ส.ก.ก้าวไกล ก็มีตัวบุคคลที่มองไว้แล้ว โดยจะเป็นว่าที่ส.ก.ที่อาวุโสที่สุด

          ด้านนายเนาวรัตน์ อยู่บำรุง ว่าที่ส.ก.เขตหนองแขม พรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกระแสข่าวจะมาเป็นประธานสภากทม.ว่า เรื่องนี้อยู่ที่ทางพรรคเพื่อไทย และผู้ใหญ่ในพรรคจะตัดสินใจ ตนคงไม่ไปก้าวล่วงอะไรได้ แต่ว่าโดยหลักแล้ว พรรคเพื่อไทยได้ส.ก.เยอะที่สุด 20 คน ก็ต้องให้พรรคเพื่อไทยเป็นคนจัด เพราะพรรคก้าวไกล ก็ได้เพียง 14 เสียงยังน้อยกว่าเพื่อไทย ส่วนเรื่องที่มีข่าวว่าส.ก.ก้าวไกลจะไปรวมเสียงจากส.ก.พรรคอื่นเช่น พลังประชารัฐ ประชาธิปัตย์ นั้น ก็เห็นว่าไม่ถูกกันไม่ใช่หรือ แต่สำหรับตน แล้วคุยได้หมด ไม่ว่าจะเป็น จากไทยสร้างไทย อย่าง ไสว โชติกะสุภา จากพรรคไทยสร้างไทย หรือ นางอนงค์ เพชรทัต ว่าที่ส.ก.ดินแดง พรรคพลังประชารัฐ และว่าที่ส.ก.ประชาธิปัตย์ เพราะส่วนใหญ่ก็รู้จัก คุยกันได้หมด

          เมื่อถามว่ามีกระแสข่าวจะมาเป็นประธานสภากทม. โดยมีอีกสองคนจากเพื่อไทย อาจเป็นคู่ชิงคือนายวิรัตน์ มีนชัยนันท์ และนายสุทธิชัย นายเนาวรัตน์กล่าวว่า เป็นเรื่องของผู้ใหญ่ในพรรคจะพิจารณา เรื่องนี้ไม่เคยได้คุยกับพรรค แต่ว่าในบรรดาส.ก.เพื่อไทยตอนนี้ทั้งหมด และยังไม่เคยเป็นประธานสภากทม. ตอนนี้ตนอาวุโสที่สุดเป็นมา 7 สมัยแล้ว แต่นายวิรัตน์กับนายสุทธิชัย เคยเป็นประธานสภากทม.มาแล้ว

         “ทั้งนายวิรัตน์และนายสุทธิชัย ก็เคยเป็นประธานสภากทม.มาแล้ว และเขาก็อาวุโสน้อยกว่าผม เขาก็คงไม่รังเกียจผมหรอก ก็คงเปิดทางให้ เพราะในทางการเมือง เราก็เคารพกันเหมือนพี่เหมือนน้อง เราไม่แย่งตำแหน่งกัน เรื่องนี้แล้วแต่ทางพรรค ผมไม่มีสิทธิพูดอะไร แต่เรื่องนี้ ต้องให้ฝ่ายที่ได้เสียงข้างมากในสภากทม.เป็นคนจัด ซึ่งยังไงก็จัดได้แน่นอน แต่ว่าการจัดก็ต้องเพื่อไทยอยู่แล้ว ก้าวไกลจะไปรวบรวมยังไงมาเพิ่ม”ว่าที่ส.ก.เขตหนองแขมน้องชาย ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุงระบุ