ผู้สื่อข่าวรายงานจากพื้นที่อำเภอพบพระ จังหวัดตาก ที่ชายแดนบ้านหมื่นฤาชัย ต.พบพระ อ.พบพระ จ.ตาก ซึ่งติดกับประเทศเมียนมาเมื่อ 3 วันที่ผ่านมา ได้มีฝนตกลงมาอย่างหนัก ติดต่อกันเป็นเวลา 2 วัน 2 คืน ทำให้มีน้ำป่าไหลหลากลงสู่แม่น้ำเมย ทำให้ล้นตลิ่ง น้ำทะลักเข้าแปลงสวนพริก ของเกษตรกรผู้ปลูกพริกจมน้ำไปกว่า 500 ไร่  ที่ไดรับความเสียหายไม่สามารถเก็บผลผลิตได้ ในพื้นที่ดังกล่าวเกษตรกรปลูกพริกประมาณพันกว่าไร่ จมน้ำเสียหายกว่า 500 ไร่ วันนี้พริกเริ่มเน่าและส่งกลิ่นเหม็น พริกในส่วนที่เหลือ ที่อยู่สูงน้ำท่วมเล็กน้อย ก็ได้ผลกระทบพริกก็เริ่มเหี่ยวเฉา เนื่องจากดินเป็นดินเหนียว ฝนตกหนักน้ำท่วมขัง ทำให้รากเน่าเหี่ยวเฉา ชาวบ้านต้องรีบเก็บ เร่งเก็บสด ส่งให้พ่อค้า ถ้าไม่รีบเก็บภายใน 2 วัน พริกก็เนาจะเสีย ขั่วจะดำ พ่อค้าไม่รับซื้อ บางรายถึงสิ้นเนื้อประดาตัว พริกจมไปกับน้ำ

จากการสอบถาม นางตง แซ่ย่าง อายุ 48 ปี เกษตรกรปลูกพริก อาศัยอยู่บ้านเลขที่ 29 หมู่ที่ 1 บ้านคีรีน้อย ต.รวมไทยพัฒนา อ.พบพระ จ.ตาก เล่าให้ผู้สื่อข่าวฟังว่า ตนเองได้ปลูกพริกจำนวน 5 ไร่ วันนี้ได้นำคนงานมาเก็บพริก เป็นพริกเขียว ถ้าไม่รีบเก็บวันนี้ ก็จะเสียหาย เพราะว่าพริกจมน้ำมาหลายวัน ต้นเริ่มเหี่ยว ลงทุนไป 2 แสนกว่าบาท หวังว่าจะขายพริกได้เงินมาถูกน้ำท่วม 3-4 วัน เสียหายหมด วันนี้เก็บไปก็ไม่รู้ว่าจะขายได้กิโลละเท่าไหร่ แล้วแต่พ่อค้า ยอมรับว่าเสียใจมาก เคยปลูกบริเวณนี้มา 3 ปี ไม่เคยเจอเหตุการณ์แบบนี้เลย ปีนี้หนักมาก ตนเองเช่าที่ปลูกไร่ละ 7,000 บาท ทำเลดีใกล้แหล่งน้ำติดกับแม่น้ำเมย

ส่วนนางเป้ายี่ แซ่ม้า อายุ 43 ปี อาศัยอยู่บ้านเลขที่ 728/1 ม.5 บ้านเก้ารวมไทย ต.รวมไทยพัฒนา อ.พบพระ จ.ตาก เล่าให้กับผู้สื่อข่าวทั้งน้ำตา ตนเองก็ปลูกพริก จำนวน 5 ไร่ ลงทุนไปมาก ใช้เงินสดตัวเอง เกือบ 3 แสนบาท แต่ทุกวันนี้ยังเป็นหนี้ค่าปุ๋ยค่ายาแสนกว่าบาท ไม่รู้ว่าจะหาเงินที่ไหนมาใช้หนี้ค่าปุ๋ยค่ายา เกิดความเครียดและลำบากมาก พริกตัวเองสวยมาก หลังจากฝนตกติดต่อกันหลายวัน ดินเป็นดินเหนียว น้ำแช่แข็ง ทำให้พริกเริ่มเหี่ยว ต้องเร่งเก็บพริกขายเป็นพริกเขียว โดยจ้างแรงงานกิโลกรัมละ 4 บาท ยังไม่รู้เลยว่าน้ำพริกไปขายจะได้กิโลละเท่าไหร่ แต่จำเป็นจะต้องทำ ไม่อย่างนั้น อีก 2-3 วันก็เก็บไม่ได้ พริกใบแห้งและเน่าตาย ปีนี้เป็นปีแรก ที่มาทำ ปุ๋ยยาก็แพงมาก ต้นทุนก็สูง ค่าเช่าที่ก็แพง ตนเองเครียดมาก ไหนลูกจะต้องไปโรงเรียน ต้องใช้เงิน และยังเป็นหนี้ค่าปุ๋ยค่ายาอีกแสนกว่าบาทไม่รู้ว่าจะเอาเงิน ที่ไหนมาใช้หนี้ นางเป้ายี่ เล่าต่ออีกว่า ในพื้นที่บริเวณนี้ บ้านหมื่นฤาชัย ตำบลพบพระ ปลูกพริกประมาณพันกว่าไร่ ปลูกบริเวณติดกับลำน้ำเมย และที่เสียหายจมน้ำ กว่า 500 ไร่ เจ้าของได้มารื้อท่อ ขนเครื่องมือกลับบ้าน เพราะว่าพริกจมน้ำ เริ่มส่งกลิ่นเหม็น และอีก 1 หมู่บ้านที่ได้รับผลกระทบคือ เกษตรกรที่ปลูกพริกในพื้นที่บ้านมอเกอไทย หมู่ที่ 1  ต.วาเล่ย์ อ.พบพระ จ.ตาก จำนวนหลายร้อยไร่ ซึ่งมีไร่ของ

นายวิเชียร วิทยาเรืองศรี อายุ 39 ปี อยู่บ้านเลขที่ 31/1 หมู่ที่ 13 ตำบลช่องแคบ อ.พบพระ จ.ตาก เล่าให้ผู้สื่อข่าวฟังว่าตนเองได้ปลูกพริก จำนวน 5 ไร่ เสียหายหมดเลย จมน้ำ ขณะนี้พริกส่งกลิ่นเหม็นเน่าขาดทุนยับเยิน และเมื่อเช้านี้ มาที่ไร่พริก เห็นพริกเน่าเสียหายหมดเลย และ แปลงติดๆกัน มีอีก 15 ไร่ เป็นของคนบ้านป่าคาเก่า เจ้าของร้องไห้เสียใจมาก พริกจมไปกับน้ำ เสียหายทั้งหมด 15 ไร่ นายวิเชียร เล่าต่อว่า พริกบริเวณบ้านมอเกอร์ไทยมีประมาณ 500 ถึง 600 ไร่ ที่ปลูกติดกับแม่น้ำเมย เสียหายก็ 100-200 ไร่ ที่จมไปกับน้ำ ในส่วนที่เหลือ ได้ผลกระทบ พริกเริ่มเหี่ยวเฉา เนื่องจากดินบริเวณนี้เป็นดินเหนียว
นอกจากพริกแล้ว ยังมีเกษตรกรได้ปลูกแตงกวา ก็จมน้ำเสียหายไปหลายไร่

ทางด้าน นายสมพงษ์ ฟุ้งทวีวงศ์ นายอำเภอพบพระ จังหวัดตาก ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่เกษตรอำเภอพบพระ เจ้าหน้าที่ อบต. สมาชิก อบต. กำนัน-ผู้ใหญ่บ้าน ทุกหมู่บ้าน ให้ออกดำเนินการสำรวจความเสียหาย ผลกระทบ ที่เกิดจากฝนตกติดต่อกันหลายวัน ทำให้น้ำท่วมหลากเข้าท่วม พืชผลการเกษตรที่ได้รับความเสียหาย และหาแนวทางแก้ไขต่อไป ในสภาพพื้นที่ น้ำล้นตลิ่ง น้ำท่วมขัง น้ำได้ลดเป็นปกติแล้ว ในส่วนของแม่น้ำเมย ไหลปกติ ถ้าไม่มีฝนตกติดต่อกันหลายวันเช่นนี้

ทีมข่าว จ.ตาก