กรมส่งเสริมสหกรณ์รับนโยบายรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ สนับสนุนสหกรณ์การเกษตรจัดตั้งกองทุนรักษาเสถียรภาพราคาผลผลิตทางการเกษตรขึ้นในสหกรณ์ เพื่อเป็นทุนสำรองไว้เตรียมพร้อมสำหรับช่วยเหลือสมาชิกในช่วงที่เกิดสถานการณ์ราคาผลผลิตตกต่ำ เพื่อพยุงราคาผลผลิตและช่วยเหลือการประกอบอาชีพให้กับสมาชิก

นายวิณะโรจน์ ทรัพย์ส่งสุข อธิบดีกรมส่งเสริมสหกรณ์ เปิดเผยว่า กรมส่งเสริมสหกรณ์ได้รับนโยบายจากรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ในการสนับสนุนให้สหกรณ์การเกษตรทั่วประเทศจัดตั้งกองทุนรักษาเสถียรภาพราคาผลผลิตทางการเกษตร เพื่อให้สหกรณ์มีการวางแผนในการบริหารความเสี่ยงในการดำเนินธุรกิจด้วยตนเองตามหลักการของสหกรณ์ จึงมีแนวคิดที่จะรณรงค์ให้สหกรณ์จัดสรรกำไรส่วนหนึ่งที่ได้จากการดำเนินธุรกิจหรือช่วงที่สหกรณ์สามารถจำหน่ายผลผลิตการเกษตรได้ราคาดี แยกเก็บไว้ในบัญชีเฉพาะสำหรับจัดตั้งเป็นกองทุนรักษาเสถียรภาพราคาผลผลิตให้กับสมาชิกสหกรณ์ เพื่อรองรับสถานการณ์ผลผลิตตกต่ำหรือเกิดเหตุการณ์ภัยธรรมชาติ โดยกองทุนฯนี้จะเข้ามาช่วยพยุงราคาผลผลิตให้กับสมาชิก สามารถมีรายได้ในการประกอบอาชีพจนสามารถผ่านพ้นช่วงเวลาที่เกิดวิกฤติการณ์ต่างๆ จนสามารถกลับคืนสู่ภาวะปกติได้

ทั้งนี้ สหกรณ์ภาคการเกษตรในปัจจุบันมีประมาณ 4,000  แห่ง ส่วนหนึ่งดำเนินธุรกิจรวบรวมผลผลิตจากสมาชิก โดยมีสินค้าการเกษตรที่สำคัญได้แก่ ข้าว ผัก ผลไม้ ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ มันสำปะหลัง ไข่ไก่ นม สินค้า ปศุสัตว์และประมง ดังนั้น กองทุนรักษาเสถียรภาพราคาผลผลิตทางการเกษตร นับว่ามีความสำคัญต่อสหกรณ์ที่จะสามารถช่วยเหลือดูแลสมาชิกในช่วงที่ราคาผลผลิตตกต่ำ โดยนำเงินจากกองทุนฯมาช่วยชดเชยราคาให้เกษตรกรได้ และส่วนหนึ่งก็ยังนำไปพัฒนาด้านสิ่งแวดล้อมและรักษาสภาพพื้นที่การเกษตรของสมาชิกให้มีศักยภาพเหมาะสมสำหรับการเพาะปลูกหรือผลิตสินค้าการเกษตรมากยิ่งขึ้น

โดยขณะนี้มีหลายสหกรณ์ให้ความสนใจในการจัดตั้งกองทุนรักษาเสถียรภาพราคาผลผลิตทางการเกษตรแล้ว เช่น สหกรณ์นิคมบ้านสร้างพัฒนา จำกัด จังหวัดปราจีนบุรี เริ่มจัดตั้งกองทุนฯระยะแรกโดยมีเงินประเดิมเข้ากองทุนฯจำนวน 4 แสนบาท และสหกรณ์การเกษตรเขาคิชฌกูฎ จำกัด จังหวัดจันทบุรี อยู่ระหว่างศึกษาแนวทางการจัดตั้งกองทุนฯดังกล่าว ซึ่งกรมส่งเสริมสหกรณ์จะขยายแนวคิดนี้ไปยังสหกรณ์การเกษตรทั่วประเทศ โดยมอบนโยบายให้สหกรณ์จังหวัดทุกจังหวัดเข้าไปชี้แจงทำความเข้าใจกับคณะกรรมการสหกรณ์ให้เข้าใจถึงความสำคัญของการจัดตั้งกองทุนรักษาเสถียรภาพราคาฯขึ้นในสหกรณ์ และเชิญชวนสหกรณ์จัดสรรกำไรปีละ1-2% เพื่อประเดิมจัดตั้งกองทุนฯในระยะแรกหรือตามแต่ที่สหกรณ์แต่ละแห่งพอจะ มีกำลัง หากสหกรณ์ไหนที่ยังมีกำไรไม่มากนัก ก็ขอให้ศึกษาแนวทางไว้เมื่อมีผลกำไรก็ขอให้จัดสรรมาดูแลเสถียรภาพราคาผลผลิตให้แก่เกษตรกร               

“อยากจะเชิญชวนและรณรงค์ให้ทุกสหกรณ์หันมาเริ่มจัดตั้งกองทุนฯขึ้นในสหกรณ์ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ถือว่ากองทุนฯนี้จะมีส่วนช่วยส่งเสริมการประกอบอาชีพการเกษตรให้มีความเข้มแข็งอย่างยั่งยืน รูปแบบสหกรณ์สามารถทำกองทุนฯนี้ได้เพราะเป็นการรวมกลุ่มกันของเกษตรกรในการเข้ามาช่วยเหลือกันด้านอาชีพ ซึ่งถือว่าเราทำตามเศรษฐกิจพอเพียงตามแนวทางของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่9ที่ทรงพระราชทานแนวทาง เรื่องการสร้างภูมิคุ้มกันให้กับตัวเองได้มีการเตรียมความพร้อมรองรับสถานการณ์ผลผลิตตกต่ำที่อาจจะเกิดขึ้นได้ และยังเป็นการสร้างความเชื่อมั่นให้กับสมาชิกของสหกรณ์ว่าในยามที่มีความเดือดร้อน สหกรณ์ได้เตรียมความพร้อมสำหรับการดูแลช่วยเหลือสมาชิกได้อย่างแท้จริง และรักษาเอกลักษณ์ของสหกรณ์ที่ต้องร่วมมือช่วยเหลือซึ่งกันและกัน”อธิบดีกรมส่งเสริมสหกรณ์ กล่าว

นอกจากนั้น ขณะนี้กรมส่งเสริมสหกรณ์ได้ปรับระบบการจัดเก็บฐานข้อมูลสหกรณ์ให้เข้าถึงสมาชิกเป็นรายบุคคล โดยมอบหมายให้ศูนย์เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร กองแผนงาน กองพัฒนาสหกรณ์ภาคการเกษตรและกลุ่มเกษตรกร กองสหกรณ์ด้านการเงินและร้านค้า และสำนักนายทะเบียนและกฎหมาย ร่วมกันพิจารณาวางแนวทางในการจัดทำระบบฐานข้อมูลของสหกรณ์ว่าควรจะมีการจัดเก็บในเรื่องใดบ้าง ที่เป็นข้อมูลสำคัญและเป็นประโยชน์ในการนำมาใช้วางแผนพัฒนาสหกรณ์ได้ตรงกับศักยภาพของแต่ละสหกรณ์ จะวางระบบการจัดเก็บข้อมูลสหกรณ์ทั่วประเทศมาจัดเก็บไว้เป็นฐานข้อมูลกลางที่กรมส่งเสริมสหกรณ์ เพื่อจะได้ข้อเท็จจริงในการนำไปใช้วิเคราะห์ข้อมูลได้อย่างรอบด้าน สำหรับใช้ในการเข้าไปแนะนำส่งเสริมและพัฒนาสหกรณ์ต่าง ๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ

เบื้องต้นกรมฯ ได้กำหนดให้สำนักงานสหกรณ์จังหวัดเก็บข้อมูลสถานภาพการดำเนินงานของสหกรณ์ทุกแห่งฐานข้อมูลสหกรณ์จะทำให้เห็นตัวตนและสถานะของสหกรณ์แต่ละแห่งที่แท้จริง และจะทำให้เจ้าหน้าที่ส่งเสริมสหกรณ์สามารถนำมาวางแผนสำหรับการเข้าไปแนะนำส่งเสริมเพื่อพัฒนาสหกรณ์ได้ตรงจุดและเกิดประสิทธิภาพในการดำเนินงานมากยิ่งขึ้น สหกรณ์ไหนที่เข้มแข็งแล้ว กรมฯจะเข้าไปส่งเสริมให้สหกรณ์เหล่านี้เติบโตก้าวหน้าต่อไป