นายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (รมว.ทส.) เปิดเผยว่า กรณีมีนายทุนทำการลักลอบขุดดินจากพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติ ไปถมในบริเวณอ่างเก็บน้ำลำตะเพิน ตำบลองค์พระ อำเภอด่านช้าง จังหวัดสุพรรณบุรี โดยกลุ่มนายทุนเพื่อทำเป็นรีสอร์ต และแหล่งท่องเที่ยวบริเวณรอบอ่างเก็บน้ำลำตะเพิน จึงได้มีการสั่งการไปยัง นายสุรชัย อจลบุญ อธิบดีกรมป่าไม้ ให้รีบดำเนินการตรวจสอบโดยเร่งด่วน พร้อมกันนี้ได้กำชับให้กรมป่าไม้ดำเนินคดีอย่างเด็ดขาด หากพบว่ามีการบุกรุกอย่างผิดกฎหมาย
“ นายสุรชัย อจลบุญ อธิบดีกรมป่าไม้ ได้มอบหมายให้ ทีมพยัคฆ์ไพร เจ้าหน้าที่จากสจป.ที่ 10 ราชบุรี ผอ. ศูนย์ป่าไม้สุพรรณบุรี หน่วยป้องกันรักษาป่าที่ สพ.1 (ด่านช้าง) ร่วมกับ เจ้าหน้าที่ตำรวจป่าไม้ (บก.ปทส.) กอ.รมน. สุพรรณบุรี  และอำเภอด่านช้าง พร้อมเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ดำเนินการตรวจสอบพื้นที่
จากการตรวจสอบของพนักงานเจ้าหน้าที่พบว่าพื้นที่ดังกล่าว ปรากฏว่าอยู่ในเขตป่าสงวนแห่งชาติป่าองค์พระ ป่าเขาพุระกำและป่าเขาห้วยพลู ท้องที่ตำบลองค์พระ อำเภอด่านช้าง จังหวัดสุพรรณบุรี รายละเอียดดังนี้   
      จุดที่ 1 ตรวจพบบริเวณแปลงสำรวจ คทช. ราย นางสาวจันทร์เพ็ญ พงษ์สุพรรณ เนื้อที่ 6 ไร่ 1 งาน 79 ตารางวา (ยังไม่ได้รับการอนุญาต) พบว่ามีการถมที่ขยายเข้าไปในเขตที่กรมชลประทานขอใช้ประโยชน์พื้นที่ โครงการอ่างเก็บน้ำลำตะเพิน ประมาณ 3 ไร่ 2 งาน 86 ตารางวา
      จุดที่ 2 ตรวจพบบริเวณแปลงสำรวจ คทช. ราย นางสาววิจิตรา สำลีลำ เนื้อที่ 4 ไร่ 1 งาน 51 ตารางวา (ยังไม่ได้รับอนุญาต) พบว่า มีการถมดินยื่นเข้าไปในพื้นในเขตกรมชลประทานขอใช้ประโยชน์โครงการอ่างเก็บน้ำลำตะเพิน ประมาณ 2 ไร่ 1 งาน 84 ตารางวา
      จุดที่ 3 ตรวจพบบริเวณแปลงสำรวจ คทช. ราย นางสาววิมลรัตน์ ด้วงทอง เนื้อที่ 0 ไร่ 3 งาน 53 ตารางวา (ยังไม่ได้รับอนุญาต) ซึ่งพื้นที่มีลักษณะเป็นเนินเขาตรวจพบมีการขุดดินลูกรัง
       ทั้งนี้ คณะเจ้าหน้าที่พิจารณาเห็นว่าเป็นความผิดตามกฎหมายว่าด้วยการป่าไม้ ตาม พ.ร.บ.ป่าไม้ พ.ศ.2484 มาตรา 54 และมาตรา 72 ทวิ ฐานบุกรุกแผ้วถางหรือกระทำด้วยประการใดฯ อันเป็นการทำลายป่า ยึดถือครอบครองป่าเพื่อตนเองหรือผู้อื่นโดยไม่ได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่ พ.ร.บ.ป่าสงวนแห่งชาติ พ.ศ. 2507 และที่แก้ไขเพิ่มเติม มาตรา 14 และมาตรา 31 ฐานบุกรุกแผ้วถางยึดถือครอบครองทำประโยชน์ หรือกระทำประการใดฯ อันเป็นการเสื่อมเสียแก่สภาพป่าสงวนแห่งชาติโดยไม่ได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่ จึงได้รวบรวมเอกสารหลักฐานส่งพนักงานสอบสวน สภ.อ.ด่านช้าง ดังนี้ จุดที่ 1 (ราย น.ส.จันทร์เพ็ญ พงษ์สุพรรณ) ปจว.ข้อ 2 คดีที่ 52/65 ลว. 20 มิ.ย. 65 เวลา 14.00 น. จุดที่ 2 (ราย น.ส.วิจิตรา สำลีลำ) ปจว.ข้อ 3 คดีที่ 53/65 ลว. 20 มิ.ย. 65 เวลา 18.00 น. จุดที่ 3 (ราย นส.วิมลรัตน์ ด้วงทอง) ปจว.ข้อ 4 คดีที่ 54/65 ลง. 20 มิ.ย. 65 เวลา 19.00 น.
จากการดำเนินคดีดังกล่าวเบื้องต้น กรมป่าไม้จะถอดถอนรายชื่อทั้ง 3 ราย ออกจากบัญชีสำรวจการถือครองโครงการ คทช. ต่อไป
นายวราวุธ กล่าวในตอนท้ายว่า  “ในฐานะที่กำกับดูแลกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ในฐานะหน่วยงานหลักในการดูแล รักษาอนุรักษ์ทรัพยากรป่าไม้ของประเทศ ได้ให้ความสำคัญกับการป้องกันและปราบปรามการลักลอบตัดไม้ทำลายป่าและแก้ไขปัญหารุกป่ามาอย่างต่อเนื่อง โดยได้สั่งการให้กรมป่าไม้ได้เร่งดำเนินการแก้ไขปัญหา เน้นการทำงานแบบบูรณาการร่วมกับหน่วยงานต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง พร้อมทั้งเสริมสร้างเครือข่ายในระดับภาคประชาชนให้เป็น “เครือข่ายพิทักษ์ป่า” เพื่อช่วยติดตามตรวจสอบ และปราบปรามการกระทำผิดในพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติ ป่าอนุรักษ์ และป่าอื่น ๆ จากกรณีของการลักลอบขุดดินจากพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติ ไปถมในบริเวณอ่างเก็บน้ำลำตะเพินครั้งนี้ ต้องถือว่าเกิดจากการมีส่วนร่วมของประชาชนในพื้นที่เป็นผู้ที่แจ้งเบาะแส จนนำมาสู่การเข้าตรวจสอบและจับกุม ซึ่งจากนี้ไปกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม จะดำเนินการป้องกันการบุกรุกและป้องกันไฟป่าอย่างเข้มข้นมากยิ่งขึ้น”