ครม.ยกเว้นภาษีอากรที่นั่งนิรภัยสำหรับเด็ก "คาร์ซีท" (Car seat) นำเข้าจากต่างประเทศ 20% ให้มีผลตั้งแต่วันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป จนถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2566
นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติเห็นชอบร่างประกาศกฎกระทรวงการคลัง เรื่อง การลดอัตราอากรและยกเว้นอากรศุลกากร ตามมาตรา 12 แห่งพระราชกำหนดพิกัดอัตราศุลกากร พ.ศ.2530 (ฉบับที่ ..) โดยมีสาระสำคัญ เป็นการยกเว้นอากรสำหรับที่นั่งนิรภัยสำหรับเด็ก (Car seat) เฉพาะที่นั่งนิรภัยสำหรับเด็กนำเข้า ให้มีผลตั้งแต่วันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป จนถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2566 และตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2567 เป็นต้นไปให้จัดเก็บอัตราอากรร้อยละ 20 ซึ่งเป็นการจัดเก็บในอัตราเดิม
ทั้งนี้ เพื่อช่วยบรรเทาภาระค่าใช้จ่ายของประชาชน สนับสนุนด้านความปลอดภัยในชีวิตและร่างกายของประชาชน ส่งเสริมให้เกิดการใช้ที่นั่งนิรภัยสำหรับเด็กและเป็นการปฏิบัติตามกฎหมายพระราชบัญญัติจราจรทางบกฉบับที่ 13 ซึ่งจะมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 4 กันยายน 65
ปัจจุบันตลาดที่นั่งนิรภัยสำหรับเด็กส่วนใหญ่ เป็นการนำเข้าจากต่างประเทศ และยังมีผู้ประกอบการไทยที่ผลิตที่นั่งนิรภัยสำหรับเด็กจำนวนน้อย เนื่องจากปริมาณความต้องการใช้ที่นั่งนิรภัยสำหรับเด็กในประเทศที่ผ่านมามีจำนวนไม่มากพอ ที่จะทำให้ผู้ประกอบการมีการลงทุน
อย่างไรก็ตาม สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย เห็นว่า การลดอัตราอากรขาเข้าสำหรับที่นั่งนิรภัยสำหรับเด็กเป็นระยะเวลา 1 ปี เพื่อสนับสนุนการลดราคาให้กับผู้บริโภค ประกอบกับการบังคับใช้พระราชบัญญัติจราจรทางบก ฉบับที่ 13 พ.ศ. 2565 คาดการณ์ว่าจะมีปริมาณความต้องการใช้ในประเทศสูงขึ้น จะทำให้ผู้ประกอบการไทยมีศักยภาพในการผลิตที่นั่งนิรภัยสำหรับเด็ก อาจสนใจที่จะลงทุนผลิตที่นั่งนิรภัยสำหรับเด็กในประเทศเพิ่มมากขึ้น