วันนี้ 5 กรกฎาคม 2565 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากสภาวะเศรษฐกิจในช่วงที่ผ่านมาส่งผลทำให้สินค้าหลากหลายชนิดขยับราคาขึ้นเป็นอย่างมาก ไม่ว่าจะเป็นในเรื่องของราคา น้ำมัน ก๊าซหุงต้ม รวมไปถึงเครื่องอุปโภค-บริโภคต่างๆ แต่มีอีกหนึ่งอาชีพที่ได้รับผลกระทบไม่แพ้กันที่ก็คือ ชาวนา ที่ต้องแบกรับภาระค้าใช้จ่ายในเรื่องของราคาปุ๋ยเคมี-ยาฆ่าแมลง แต่ราคาของข้าวเปลือกก็ไม่ได้ขยับขึ้นตาม จึงทำให้ชาวนาทำนาในแต่ละครั้งแทบไม่เหลือกำไรจึงต้องหาวิธีดิ้นรนหาทางออกเพื่อให้ลดต้นทุนในการผลิต
โดยที่ชาวนาในพื้นที่ บ้านบางไก่เถื่อน ม.3 ต.ตลุก อ.สรรพยา จ.ชัยนาท ได้รวมกลุ่มกันกว่า 50 คน ผลิตปุ๋ยและยาฆ่าแมลงแบบธรรมชาติใช้เองและสามารถลดต้นทุนในเรื่องของราคาปุ๋ยและยาฆ่าแมลงได้เกือบครึ่ง
โดยนายชยันต์ พิทักษ์พูลศิลป์ ประธานศูนย์จัดการปุ๋ยชุมชนบ้านบางไก่เถื่อน เปิดเผยว่า กลุ่มปุ๋ยชุมชนบ้านบางไก่เถื่อน เริ่มทำปุ๋ยใช้เอง เมื่อ 4 ปีที่แล้ว เป็นปุ๋ยสูตร พด.2 ของกรมพัฒนาที่ดิน พอมาเมื่อปีที่แล้วราคาของปุ๋ยเริ่มแพงทางกลุ่มได้คิดวิธีปรับการทำปุ๋ยโดยใช้มูลค้างคาวมาหมัก และปุ๋ยยูเรียน้ำก็หมักมาจากถั่วเหลืองกับน้ำตาลทรายแดง ซึ่งหลังจากทดลองทำปุ๋ยเองแล้วได้นำไปทดลองใช้ในนาข้าวก็ได้ผลดี โดยเฉพาะปุ๋ยมูลค้างคาว กับปุ๋ยยูเรียน้ำที่ผลิตจากถั่วเหลืองกับน้ำตาลทรายแดง ในช่วงที่ราคาปุ๋ยแพงตอนนี้ก็เป็นผลดีหากนำปุ๋ยที่ผลิตเองได้มาใช้เพราะถือว่าเป็นการลดต้นทุนในเรื่องของราคาปุ๋ยยูเรียลง ซึ่งปัจจุบันราคาของปุ๋ยยูเรียตกอยู่ราคากระสอบละ 1,600 บาท ซึ่งก่อนหน้านี้จะตกอยู่ละราคากระสอบละ 500 บาท และขยับราคาขึ้นมาอยู่เลื่อยๆ และหากไม่นำปุ๋ยที่ผลิตขึ้นเองมาใช้ค่าใช้จ่ายในเรื่องค่าปุ๋ยค่ายาต้นทุนก็จะตกอยู่ไร่ละ 1,600-2,000 บาทต่อไร่ แต่พอหลังจากนำปุ๋ยที่ผลิตเองมาให้แล้วต้นทุนก็จะไม่เกิน 1,200 บาทต่อไร่ ส่วนเรื่องของผลผลิตที่ได้นั้นก็ไม่ได้แต่กต่างจากการใช้ปุ๋ยเคมีเพียงอย่างเดียว ซึ่งปุ๋ยเคมีก็ยังมีการใช้อยู่บ้างแต่ก็ลดปริมาณลงจากเดิม 1 ไร่ ใช้ปุ๋ยเคมี 50 กิโลกรัม ก็ลดลงมาใช้เหลือเพียงแค่ 25-30 กิโลกรัมต่อไร่ และหันมาใช้น้ำหมักปุ๋ยธรรมชาติที่ทำเอง แถมยังทำให้ดินในนาข้าวกลับมาดี และยังเป็นการลดต้นทุนในการทำนาได้เป็นอย่างมาก
ทีมข่าว จ.ชัยนาท