นายคำนูณ สิทธิสมาน เลขานุการและโฆษกคณะกรรมาธิการวิสามัญกิจการสภาขับเคลื่อนการปฏิรูประเทศ หรือ วิปสปท. แถลงภายหลังการประชุมว่า ที่ประชุมได้บรรจุระเบียบวาระการประชุมสปท.ในวันที่ 22 พฤษภาคม มีวาระการพิจารณารายงานการปฏิรูป 2 เรื่อง คือ 1.) รายงานของคณะกรรมาธิการขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศด้านการศึกษา เรื่องการปฏิรูปจัดการความหลากหลายทางชีวภาพ และการใช้ประโยชน์อย่างยั่งยืน 2.) รายงานของคณะกรรมาธิการขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศด้านกฎหมายและกระบวนการยุติธรรม เรื่องการสร้างการมีส่วนร่วมของภาคประชาชนในกิจการของตำรวจ ส่วนวันที่ 23 พฤษภาคม มีวาระการพิจารณารายงานการปฏิรูป 2 เรื่อง คือ 1.) รายงานของคณะกรรมาธิการขับเคลื่อนการปฏิรูปด้านการบริหารราชการแผ่นดิน เรื่องการเพิ่มประสิทธิภาพการบริการประชาชนที่เป็นเลิศของศูนย์ดำรงธรรมและการเชื่อมโยงระบบการบริหารจัดการการร้องทุกข์ของประชาชน 2.) รายงานของกมธ.ขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศด้านการสื่อสารมวลชน เรื่องการปกป้องคุ้มครองและรักษาความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์ของโครงสร้างพื้นฐานสำคัญด้านสารสนเทศของประเทศ
ส่วนกรณีที่ร้อยเอก ทินพันธุ์ นาคะตะ ประธาน สปท.เข้าพบนายกรัฐมนตรี ที่ทำเนียบรัฐบาลเมื่อช่วงเช้า ที่คาดว่าหารือเรื่องกฎหมายปฏิรูปที่สปท. เสนอให้คณะรักษาความสงบแห่งชาติ หรือ คสช. ออกคำสั่งมาตรา 44 นายคำนูณ กล่าวว่า ไม่ทราบถึงการเข้าพบดังกล่าว เพราะในที่ประชุมวิปสปท. ไม่ได้มีการหารือในประเด็นนี้ แต่โดยปกติสปท.เป็นหน่วยงานวิชาการมีหน้าที่เสนอความเห็น และวิธีปฏิบัติด้านต่างๆ ซึ่งสุดท้ายขึ้นอยู่กับนายกรัฐมนตรี จะพิจารณาถึงความเหมาะสม และในฐานะที่สปท.เป็น 1 ในแม่น้ำ 5 สาย ก็เป็นปกติที่ประธานสปท. จะประสานพูดคุยกับนายกฯ เป็นระยะ และพบกับผู้นำแม่น้ำสายต่างๆอยู่แล้ว