ที่ประชุมคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) มีมติชี้มูลความผิดทางคดีอาญา นายวิฑูรย์ นามบุตร กับพวก 5 ราย กรณีถูกกล่าวหากระทำความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการตามประมวลกฎหมายอาญา หรือกระทำความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ หรือทุจริตต่อหน้าที่ตามกฎหมายอื่น และมีส่วนร่วมในการกระทำความผิด กรณีเรียกรับเงิน จำนวน 30 ล้านบาท ในการร่วมลงทุนและช่วยเหลือการก่อสร้างโครงการสิ่งสาธารณูปโภคของทางราชการ เมื่อปี 2556 – 2557

โดยมติที่ประชุมคณะกรรมการ ป.ป.ช.เสียงข้างมากเห็นว่า นายวิฑูรย์ นามบุตร กับพวก มีความผิดทางอาญาตามมาตรา 149, 157 และตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ (พ.ร.ป.) ว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2542 และที่แก้ไขเพิ่มเติม มาตรา 123/1 ส่วนกรรมการ ป.ป.ช. เสียงข้างน้อย 1 เสียง เห็นว่า ไม่ผิดตามมาตรา 149

ทั้งนี้ ในสำนวนการไต่สวนของป.ป.ช. คดีนี้ มีการระบุว่า นายวิฑูรย์ได้รับเงินไปแล้วเกือบ 30 ล้านบาท โดยผ่านการจ่ายเป็นเงินสด และการโอนเงินผ่านบัญชีธนาคารของบุคคลอื่นด้วย

ซึ่งเมื่อตรวจสอบข้อเท็จจริงไปที่ นายนิวัติไชย เกษมมงคล เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ก็ได้เปิดเผย ว่า ที่ประชุมคณะกรรมการ ป.ป.ช. วันที่ กรกฎาคม 65 มีมติชี้มูลความผิด นายวิฑูรย์ นามบุตร อดีต ส.ส.อุบลราชธานี และกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2557 กับพวกรวม 5 ราย จริง โดยขณะนี้อยู่ระหว่างให้ที่ประชุมคณะกรรมการ ป.ป.ช. รับรองมติการประชุมก่อน แล้วจะมีการแถลงรายละเอียดให้ทราบต่อไป

นายวิฑูรย์ นามบุตร อดีต ส.ส. จ.อุบลราชธานี  6 สมัย และเคยเป็นกรรมการบริหารพรรค ประชาธิปัตย์ เมื่อปี 2564 นายวิฑูรย์ ได้ลาออกจากพรรคประชาธิปัตย์ และอ้างว่ามีการไปพบกับทักษิณ ชินวัตร เพื่อเข้าสังกัดพรรคเพื่อไทย แต่ต่อมากลับมีข่าวว่าเขาอาจจะย้ายเข้าสังกัดพรรคภูมิใจไทย