คณะกรรมการบริหารกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง (กบน.) มีมติตรึงราคาขายปลีกน้ำมันดีเซลไว้ที่ลิตรละ 35 บาท หวังช่วยลดผลกระทบด้านค่าครองชีพของประชาชน ขณะที่ปัจจุบันฐานะกองทุนน้ำมันติดลบกว่า 1.1 แสนล้านบาท
นายวิศักดิ์ วัฒนศัพท์ ผู้อำนวยการสำนักงานกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการบริหารกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง (กบน.) ได้พิจารณาทบทวนราคาขายปลีกน้ำมันดีเซลประจำสัปดาห์ โดยมีมติให้คงราคาน้ำดีเซลไว้ที่ลิตรละ 34.94 บาท โดยเป็นการตรึงราคาต่อเนื่องเป็นสัปดาห์ที่ 5 ทั้งนี้เพื่อมีส่วนช่วยลดค่าใช้จ่ายให้ประชาชน
สัปดาห์ที่ผ่านมา สถานการณ์ราคาน้ำมันดีเซล (GAS OIL) ลดลง 6.44 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล โดยเมื่อวันที่ 8 กรกฎาคม 2565 ราคา GAS OIL อยู่ที่ 142.56 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล และลดลงเป็น 136.12 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรลเมื่อวันที่ 18 กรกฎาคม 2565 เนื่องมาจากปัจจัยความกังวลต่อเศรษฐกิจโลกที่มีแนวโน้มเข้าสู่ภาวะถดถอย อัตราเงินเฟ้อปรับตัวสูงขึ้นค่อนข้างเร็ว และธนาคารกลางหลายแห่งทั่วโลกเริ่มดำเนินนโยบายการเงินแบบเข้มงวด ส่งผลกดดันต่อความต้องการใช้น้ำมัน
นอกจากนี้ ยังมีความวิตกต่อสถานการณ์ในเมืองเซี่ยงไฮ้ของประเทศจีนที่พบผู้พบผู้ติดเชื้อสายพันธุ์ย่อยตัวใหม่ เพราะหากระบาดรุนแรงอาจมีมาตรการล็อกดาวน์ขึ้นอีก ประกอบกับ ดัชนีราคาผู้บริโภคของสหรัฐฯ ปรับตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่องมาอยู่ที่ 9.1% ในเดือน มิ.ย. ธนาคารกลางสหรัฐฯ จึงยังคงนโยบายขึ้นอัตราดอกเบี้ยในปลายเดือนนี้ตามที่ประกาศมาแล้วก่อนหน้า
ทั้งนี้ มติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 21 มิถุนายน 2565 ได้ออกมาตรการลดค่าครองชีพให้กับประชาชนรอบใหม่ โดยในส่วนของราคาน้ำมันดีเซลมีมาตรการอุดหนุนราคาน้ำมันดีเซลร้อยละ 50 ในส่วนที่ราคาขายสูงกว่า 35 บาทต่อลิตรเป็นเวลา 3 เดือน (กรกฎาคม - กันยายน 2565)
สำหรับประมาณการฐานะกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงปัจจุบัน วันที่ 17 กรกฎาคม 2565 ติดลบ 112,935 ล้านบาท โดยแบ่งเป็นบัญชีน้ำมันติดลบ 74,162 ล้านบาท และบัญชีก๊าซ LPG ติดลบ 38,773 ล้านบาท