น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ก่อนการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) นายอเลน แบร์เช่ ประธานคณะกรรมการบริหาร พร้อมคณะกรรมการจากองค์การนิทรรศการนานาชาติ (Bureau International des Expositions: BIE) เข้าเยี่ยมหารือ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม ในโอกาสเดินทางเยือนประเทศไทยเพื่อสำรวจพื้นที่การจัดงานจัดเอ็กซ์โปวาระพิเศษ ที่ จ.ภูเก็ต หลังจากประเทศไทยได้เสนอตัวเป็นเจ้าภาพภายใต้ชื่องาน Expo2028-Phuket, Thailand
นายกรัฐมนตรี ได้กล่าวต้อนรับคณะกรรมการบริหารฯ และคณะกรรมการ BIE และได้แสดงจุดยืนประเทศไทยในการเสนอตัวเป็นเจ้าภาพจัดงาน Expo2028-Phuket, Thailand พร้อมกับให้ให้ความเชื่อมั่นต่อคณะกรรมการจาก BIE ถึงศักยภาพ ความพร้อมของประเทศไทย ตลอดจนความมุ่งมั่นอย่างเต็มที่ของรัฐบาลที่จะให้การสนับสนุนทุกด้าน เพื่อให้ประเทศไทยได้รับความไว้วางใจให้เป็นเจ้าภาพการจัดงานนิทรรศกาลระดับโลกในครั้งนี้
ทั้งนี้ รัฐบาลได้เสนอให้จังหวัดภูเก็ตเป็นเจ้าภาพจัดงานดังกล่าว ภายใต้แนวคิด “ชีวิตแห่งอนาคต-แบ่งปันความรุ่งเรือง อยู่ร่วมกันเป็นหนึ่งเดียว” (Future of Life: Living in Harmony, Sharing Prosperity) มุ่งส่งเสริมอนาคตที่ยั่งยืน บนพื้นฐานความร่วมมือระหว่างภาครัฐ ภาคธุรกิจ ภาคเอกชน รวมทั้งชุมชนต่างๆ สอดคล้องกับเป้าหมายการพัฒนาของจังหวัดภูเก็ตที่มุ่งเน้นให้เป็นศูนย์กลางการท่องเที่ยว การศึกษา นวัตกรรม บริการในระดับมาตรฐานนานาชาติ โดยรัฐบาลพร้อมที่จะสนับสนุน และสร้างการรับรู้ให้แก่ประชาชนในการเป็นเจ้าภาพที่ดีเพื่อต้อนรับผู้เข้าร่วมงาน ซึ่งล่าสุดได้มีการนำเข้าหารือในมติคณะรัฐมนตรีและอนุมัติในกรอบงบประมาณแล้ว
ด้าน นาย Alain Berger ประธานคณะกรรมการบริหาร BIE กล่าวว่า ได้รับทราบถึงจุดยืนและความมุ่งมั่นของไทยในการเป็นเจ้าภาพการจัดงาน ซึ่งถือเป็นส่วนหนึ่งของกิจกรรมที่สำคัญในการพิจารณาคัดเลือกประเทศหรือเมืองเจ้าภาพจัดงาน โดยทางคณะกรรมการ BIE จะประเมินความเป็นไปได้ของโครงการฯ ที่ไทยเสนอ ตลอดจนการสนับสนุนจากภาคส่วนต่างๆ ทั้งจากรัฐบาล หน่วยงานท้องถิ่น และประชาชน ผ่านการสำรวจความพร้อมของพื้นที่ในจังหวัดภูเก็ต และจะจัดทำรายงานการสำรวจพื้นที่และศักยภาพของไทยเพื่อประกอบการพิจารณาโครงการต่อไป ซึ่งทาง BIE เน้นย้ำถึงการนำเสนอโครงการที่จะสามารถจุดประกายแนวทางขับเคลื่อนเศรษฐกิจให้แก่ท้องถิ่น และต่อยอดไปยังภูมิภาคได้อย่างมีประสิทธิภาพ
นายกรัฐมนตรี ได้กล่าวถึงศักยภาพและความพร้อมของจังหวัดภูเก็ต ซึ่งถือเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้ไทยมีความเหมาะสมในการเป็นเจ้าภาพจัดงาน เนื่องจากภูเก็ตเป็น 1 ในกลุ่มจังหวัดภาคใต้ที่รัฐบาลมุ่งผลักดันให้เป็นจุดหมายการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพระดับโลก (Medical Tourism Destination) รวมทั้งเป็นเมืองที่มีวัฒนธรรมและสถาปัตยกรรมอันโดดเด่น มีเอกลักษณ์ของตนเอง โดยเฉพาะสถาปัตยกรรมชิโน-โปรตุกีส อีกทั้งเมืองยังมีความทันสมัยโดยยังสามารถดำรงศิลปะและวัฒนธรรมของตนเองได้อย่างเด่นชัด และเป็นจังหวัดแรกที่เป็นพื้นที่นำร่องการท่องเที่ยวในช่วงสถานการณ์โควิด-19 ผ่านโครงการ “ภูเก็ต แซนด์บ็อกซ์” ซึ่งถือเป็นต้นแบบของการเปิดประเทศรับนักท่องเที่ยวต่างชาติ และประสบผลสำเร็จเป็นอย่างมาก
นอกจากนี้ ภูเก็ตยังมีความพร้อมด้านการบริหารจัดการ ซึ่งรัฐบาลมีแผนพัฒนาพื้นที่อย่างต่อเนื่องด้วยการเพิ่มขีดความสามารถในการรองรับการท่องเที่ยวของภาคส่วนบริการที่เชื่อมโยงกัน ตั้งแต่การคมนาคมขนส่ง การควบคุมปริมาณนักท่องเที่ยวที่เหมาะสม ควบคู่กับการบริหารจัดการทางสาธารณสุขตามแนวทางวิถีใหม่
ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรีเน้นย้ำว่า รัฐบาลให้ความสำคัญกับการมีส่วนร่วมจากทุกภาคส่วน เน้นการบูรณาการจากทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน และภาคประชาสังคม โดยยึดประโยชน์ของประเทศและประชาชนเป็นสำคัญ เพื่อให้การจัดงานดังกล่าวบรรลุวัตถุประสงค์และเกิดการพัฒนาที่ยั่งยืนต่อไป
น.ส.ไตรศุลี กล่าวว่า การเป็นเจ้าภาพเพื่อจัดเอ็กซ์โปวาระพิเศษ ปี 2028 มีประเทศที่เสนอตัวแข่งขันทั้งหมด 5 ประเทศประกอบด้วย ไทย เซอร์เบียร์ สเปน อาร์เจนตินา และสหรัฐอเมริกา ซึ่งตามขั้นตอนการคัดเลือก แต่ละประเทศจะต้องนำเสนอข้อมูลความพร้อมของประเทศทั้งหมด 3 ครั้ง และ BIE ลงพื้นที่ตรวจความพร้อมสถานที่จัดงาน 2 ครั้ง และประกาศผลการคัดเลือกในช่วงเดือนมิ.ย. 66