แถลงผลปฏิบัติการปิดล้อมตรวจค้น 427 เป้าหมาย 7 จังหวัดพื้นที่ตำรวจภูธรภาค 8 เตรียมพร้อมเปิดประเทศรองรับนักท่องเที่ยว 2 ชายฝั่งทะเลอันดามันและอ่าวไทยเผยกลุ่มผู้มีอิทธิมือปืนรับจ้างมีไม่มาก

 เมื่อวันที่ 25 กรกฎาคม 2565 เวลา 11.00 นาฬิกา ที่ห้องประชุมชั้น 3 กองกำกับการตำรวจภูธรจังหวัดกระบี่ พลตำรวจตรี วันไชย เอกพรพิชญ์ รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 8 และพลตำรวจตรี ชัยวัฒน์ อุ้ยคำ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดกระบี่ ร่วมเป็นประธานแถลงข่าวผลปฏิบัติการปิดล้อมตรวจค้นกวาดล้างอาชญากรรมในพื้นที่ตำรวจภูธรภาค 8 รวม 427 เป้าหมายใน 7 จังหวัด ตามนโยบายพลตำรวจเอก สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ที่วางมาตรการดูแลนักท่องเที่ยวที่จะเดินทางมาท่องเที่ยวในพื้นที่ท่องเที่ยวที่สำคัญ ตั้งแต่วันที่ 1 พฤษภาคม 2565 ให้ตำรวจภูธรภาคดำเนินการตามมาตรการการลดอาชญากรรมในพื้นที่โดยเร่งด่วน เพื่อสร้างความเชื่อมั่นแก่ชาวต่างชาติที่เดินทางมาท่องเที่ยวในประเทศไทยและสอดรับกับนโยบายของรัฐบาลในภาพรวม

ทั้งนี้จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโควิด 19 ทำให้นักท่องเที่ยวที่เดินทางมาท่องเที่ยวยังประเทศไทยมีจำนวนลดน้อยลงมาก ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจและสังคมของไทยในภาพรวม แต่ปัจจุบันสถานการณ์ดังกล่าวมีแนวโน้มคลี่คลายลง ซึ่งสอดคล้องกับทั่วโลกที่หลายประเทศเริ่มมีการผ่อนคลายมาตรการป้องกันและควบคุมโรคดังกล่าว และเปิดประเทศควบคู่ไปกับการส่งเสริมกิจกรรมทางเศรษฐกิจ ในประเทศไทยพื้นที่ชายฝั่งทะเลอันดามันและอ่าวไทย เป็นพื้นที่ชาวต่างชาติและชาวไทยนิยมเดินทางมาท่องเที่ยวกันเป็นจำนวนมาก เช่นจังหวัดภูเก็ต จังหวัดกระบี่ และจังหวัดพังงา เป็นต้น โดยเน้นบ้านเช้า เกสเฮ้าส์ บ้านพัก รีสอร์ท ยาเสพติด อาวุธปืน อาวุธสงคราม วัตถุระเบิด มือปืนรับจ้าง บุคคลตามหมายจับ แหล่งมั่ว แก๊งเงินกู้นอกระบบ ความผิดคอมพิวเตอร์ การค้าประเวณี แหลล่งมั่วสุมจากการกระทำผิดอาญาทุกรูปแบบ ที่อาจส่งผลกระทบต่อนักท่องเที่ยว เพื่อเป็นการเตรียมพร้อมเปิดประเทศรอรับนักท่องเที่ยว 2 ชายฝั่งทะเลอันดามันและฝั่งอ่าวไทย

โดยเน้นจับกุมดำเนินคดีกับผู้มีอิทธิพล อาวุธปืน ยาเสพติด วัตถุระเบิด การค้าประเวณี โจรกรรมรถ และให้ปฏิบัติการอย่างต่อเนื่องและจริงจังมา เพื่อให้พื้นที่ท่องเที่ยวภาคใต้ของประเทศไทยปลอดภัยจากอาชญากรรมต่างๆ ลดปัญหาอาชญากรรมในพื้นที่ให้ประชาชนอยู่กับอย่างสงบสุข ดังนั้นตำรวจภูธรภาค 8 ได้มีการวางแผนในการดาเนินการปิดล้อมตรวจค้นเพื่อลดเหตุอาชญากรรม ระหว่างวันที่ 18 - 22 กรกฎาคม 2565 กว่า 427 เป้าหมายใน 7 จังหวัดประกอบด้วยจังหวัดกระบี่ 64 เป้าหมาย จังหวัดชุมพร 58 เป้าหมาย จังหวัดนครศรีธรรมราช 87 เป้าหมาย จังหวัดพังงา 65 เป้าหมาย จังหวัดภูเก็ต 46 เป้าหมาย จังหวัดระนอง 37 เป้าหมาย จังหวัดสุราษฎร์ธานี 70 เป้าหมาย ผลการปฏิบัติการปิดล้อมตรวจค้นในห้วงเวลาดังกล่าว สามารถตรวจเก็บดีเอ็นเอบุคคลเป้าหมาย 433 คน จับกุมอาวุธปืน 81 กระบอก กระสุนปืน 762 นัด ยาเสพติด 317 คน ยาบ้า 30,858 เม็ด และยาไอซ์ 245 กรัม จับตามหมายจับ 86 คน รวมผู้ต้องหาทั้งหมด 551 คน ยึดรถยนต์ได้จากการโจรกรรม 3 คัน รถจักรยานยนต์ 2 คัน ซึ่งมีการจับกุมอาวุธปืนมากสุดในจังหวัดนครศรีธรรมราช 23 กระบอก จังหวัดกระบี่ 16 กระบอก และจังหวัดสุราษฎร์ธานี 14 กระบอก การสาธิตตรวจหาดีเอ็นเอ การสาธิตตรวจหาวิธีกระสุนปืน

โอกาสนี้พลตำรวจตรี วันไชย เอกพรพิชญ์ รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 8 เปิดเผยว่า สำหรับการปราบปรามจับกุมผู้มีอิทธิพล ซุ่มมือปืน และมือปืนรับจ้างนั้น เรามีเป้าหมายและบัญชีมีการปิดล้อมตรวจค้นทุกเดือน ส่วนมือปืนที่จับได้อยู่ตามหมายจับอยู่แล้ว ไม่ว่าจะอยู่ในบัญชีของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ตำรวจภูธรภาค 8 เอง เรามีการจับกุม ส่วนรายใหม่ก็มืออย่างเช่นเหตุเกิดที่จังหวัดสุราษฎร์ธานี ก็ไม่อยู่ในบัญชีผู้มีอิทธิพล เป็นบัญชีมือปืนก็จับกุมซึ่งเป็นดาวรุ่งขึ้นมาใหม่ วันนี้จาการปฏิบัติทั้ง 7 จังหวัดผลการจับกุมอาวุธปืนต่างๆส่วนใหญ่เป็นปืนที่ไม่มีทะเบียน ถ้าเป็นปืนที่มีทะเบียนผิดบ่า ตำรวจภูธรจังหวัดจะทำหนังสือเพิกถอนไปถึงนายทะเบียนท้องที่คือนายอำเภอ ได้ทำมาอย่างต่อเนื่อง ผลเราสร้างความเชื่อมั่นให้นักท่องเที่ยวในพื้นที่ 7 จังหวัดอันดามันและอ่าวไทย โดยเฉพาะจังหวัดภูเก็ต พังงา กระบี่ และจังหวัดสุราษฎร์ธานี เราจำยายามควบคุมไม่ให้คดีเกิดหากเกิดจะต้องจับกุมได้ กลุ่มมือปืนที่จับได้อย่างที่จังหวัดนครศรีธรรมราช อยู่ในอันดับต้น จังหวัดชุมพร จังหวัดสุราษฎร์ธานี มือปืนที่จับกุมไม่อยู่ในระบบ บุคคลที่ยังอยู่ในบัญชีมีการติดตามต่อเนื่องบางคนก็อยู่ในเรือนจำไปแล้ว ส่วนมือปืนใหม่ขึ้นมาจะถูกขึ้นบัญชีหมด จะมีคณะกรรมการระดับจังหวัดจะพิจารณาอีกที และภาคจะพิจารณาร่วม เราอย่าไปเข้มงวดเรื่องนี้มากเพราะว่าจะต้องไม่มีการเกิดคดีอุฉกรรจ์สะเทือนขวัญในพื้นที่ เราเน้นภาคการท่องเที่ยว ในพื้นที่ตำรวจภูธรภาค 8 มีมือปืนรับจ้างในแต่ละจังหวัดในบัญชีเรามีไม่มากประมาณ 8 – 9 คน แต่เราจับกุมอยู่ๆในเรือนจำ 2 คน

ทีมข่าวกระบี่