ชายแดนตาก ปะทะเดือดนาน 7 ชั่วโมง ทหารเมียนมาระดมยิงอาวุธหนักใส่ทหารกระเหรี่ยง ฝั่งตรงข้ามชายแดน อำเภอพบพระ จังหวัดตาก ชาวบ้านไทยขวัญผวากลัวลูกหลง เตรียมอพยพเช่นกัน

เมื่อเวลา 17.00 น. ( 30 ก.ค. 65 ) สถานการณ์การสู้รบระหว่างกะเหรี่ยงเคเอ็นแอลเอและฝ่ายพันธมิตรยิงปะทะกับทหารกองทัพเมียนมา โดยเมื่อเวลา 10.00 น.ทหารกองทัพเมียนมากองพันเคลื่อนที่เร็วที่ 9 และกองพัน 104 นับร้อยนายพร้อมอาวุธครบมือได้เคลื่อนกำลังพลบุกเข้ากวาดล้างทหารกะเหรี่ยงเคเอ็นแอลเอและกลุ่มพีดีเอฟ ที่ปักหลักซ่อนตัวอยู่ภายในหมู่บ้านวะเมทะ เขตอำเภอซูการี จังหวัดเมียวดี ประเทศเมียนมา เพื่อจะหมายจะเคลื่อนกำลังพบข้ามหมู่บ้านแห่งนี้ไปอีกหมู่บ้านหนึ่ง แต่ถูกทหารกะเหรี่ยง ซึ่งวางกำลังดักซุ่มอยู่ตลอดเส้นทางเดินทัพของทหารเมียนมาดักยิงโจมตีด้วยจรวดอาร์พีจีและเป็นเล็กยาวประจำกาย จนทหารทั้งสองฝ่ายเกิดการยิงปะทะกันอย่างหนัก โดยทหารเมียนมาได้ระดมยิงระเบิดวิถีโค้งทั้งขนาด 120 มม.และขนาด 81 มม. ยิงใส่ทหารกะเหรี่ยงนับ 100 ลูก พร้อมระดมยิงปืนกลหนักใส่ในหมู่บ้านวะเมทะ โดยมีการระดมยิงปะทะกันยาวนานกว่า 7 ชั่วโมงเต็ม ซึ่งส่งผลทำให้ทหารทั้งสองฝ่ายมีบาดเจ็บสาหัสและเสียชีวิตไปหลายนาย ซึ่งขณะนี้การยิงปะทะยังคงดำเนินอย่างต่อเนื่อง

ส่วนผลกระทบทางอ้อมหลังการยิงปะทะต่อเนื่องเป็นวันที่สองซึ่งเป็นวันที่ปะทะหนักสุด ชาวบ้านบ้านวาเล่ย์ใต้ และบ้านมอเกอร์ไทย ตำบลวาเล่ย์ อำเภอพบพระ จังหวัดตาก ซึ่งทั้งสองหมู่บ้านอยู่ตรงข้ามกับแนวยิงปะทะชาวบ้านต่างขวัญผวากับเสียงปืนกลและเสียงระเบิดนับร้อยลูกที่ระเบิดเสียงดังสนั่นไปทั่วหมู่บ้านทั้งสองจนชาวบ้านต่างต้องเตรียมความพร้อมหนีภัยด้วยเช่นกัน เนื่องจากแนวยิงปะทะห่างฝั่งชายแดนไทยไม่ถึง 1 กิโลเมตร ซึ่งขณะนี้มีชาวบ้านฝั่งรัฐกะเหรี่ยง ประเทศเมียนมา ได้อพยพหนีภัยสงครามเข้ามาพักอาศัยอยู่ภายในพื้นที่ปลอดภัยชั่วคราววัดมอเกอร์ไทย หมู่ที่ 1 ตำบลวาเล่ย์ อำเภอพบพระ จังหวัดตาก ซึ่งขณะนี้มียอดผู้หนีภัยรวมจำนวน 188 คน โดยพื้นที่ดังกล่าวทหารไม่อนุญาตให้ผู้ใดเข้าไปในพื้นที่ อพยพชั่วคราว พร้อมปิดถนนเลียบแนวชายแดน งดการสัญจรบนถนนสายวาเล่ย์ใต้ไปยังบ้านมอเกอร์ไทย เป็นการชั่วคราว เพื่อป้องกันอันตรายต่อชาวบ้านฝั่งไทย

สำหรับการยิงปะทะของทหารกองทัพเมียนมากับทหารกะเหรี่ยงหลายฝ่าย สืบเนื่องจากทหารกองทัพเมียนมาต้องการเข้ากระชับบุกยืดพื้นที่ฐานที่ตั้งของทหารกะเหรี่ยงในพื้นที่ตรงข้ามกับอำเภอพบพระ และอำเภอแม่สอดให้ได้ และต้องการเข้ากวาดล้างทหารกะเหรี่ยงและฝ่ายต่อต้านรัฐบาลทหารเมียนมาอย่างเด็ดขาด ซึ่งทหารเมียนมาเปิดศึกครั้งนี้มีการระดมขนอาวุธหนักทั้งปืนใหญ่และเครื่องยิงลูกระเบิดจำนวนมากพร้อมเสริมกำลังทหารหลายร้อยนายเข้าประชิดพื้นที่ใกล้กับจุดทหารกะเหรี่ยงวางกำลังไว้  ซึ่งฝ่ายความมั่นคงฝ่ายไทยประเมินว่าการปะทะดำเนินอย่างต่อเนื่องและหากสถานการณ์รุนแรงมากยิ่งขึ้นก็อาจจะทำให้มีผู้อพยพหนีภัยสงครามอาจจะทะลักข้ามมาฝั่งไทยเพิ่มมากยิ่งขึ้น ซึ่งล่าสุดการยิงปะทะยังคงยิงปะทะอย่างต่อเนื่องท่ามกลางฝนตกหนัก

ทีมข่าว จ.ตาก