ผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรีนำทุกภาคส่วนร่วมจุดเทียนถวายพระพรชัยมงคล สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 12 สิงหาคม 2565 เพื่อน้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณมีต่อปวงชนชาวไทยตลอดมา
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ศาลา 60 พรรษามหาราช อำเภอเมือง จังหวัดกาญจนบุรี นายจีระเกียรติ ภูมิสวัสดิ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรี เป็นประธานในพิธีถวายเครื่องราชสักการะพุ่มเงิน-พุ่มทองและจุดเทียนถวายพระพรชัยมงคล สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง พร้อมด้วย นางรชยา ภูมิสวัสดิ์ นายกเหล่ากาชาดจังหวัดกาญจนบุรี นายกองเอก พงศธร ศิริสาคร นายสมหวัง บุญระยอง รองผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรี หัวหน้าส่วนราชการ ข้าราชการ ทหาร ตำรวจ ภาคเอกชน ประชาชนและกลุ่มพลังมวลชน ร่วมพิธีฯ
โดยผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรี นายกเหล่ากาชาดจังหวัดกาญจนบุรี และ หัวหน้าส่วนราชการ กลุ่มพลังมวลชน ได้ประกอบพิธีถวายพานพุ่มทอง-พุ่มเงิน เบื้องหน้าพระฉายาลักษณ์สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง และร่วมจุดเทียนถวายพระพรชัยมงคล ร้องเพลงสดุดีพระแม่ไทย เพื่อน้อมรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณ และกล่าวทรงพระเจริญ
จังหวัดกาญจนบุรีจัดพิธีเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 12 สิงหาคม 2565 เพื่อเป็นการเฉลิมพระเกียรติ และน้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณอันแสดงออกถึงความจงรักภักดี แด่สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ที่ทรงมีพระมหากรุณาธิคุณต่อปวงชนชาวไทยตลอดมา สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ประสูติเมื่อวันที่ 12 สิงหาคม พุทธศักราช 2475 ได้รับการสถาปนาขึ้นเป็น สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ เมื่อวันที่ 5 ธันวาคม พุทธศักราช 2499 นับแต่นั้นมาพระองค์ได้ทรงปฏิบัติพระราชกรณียกิจมากมายที่สำคัญ โดยเฉพาะอย่างยิ่งภารกิจในการส่งเสริมคุณภาพชีวิต อาชีพ และความเป็นอยู่ของบุคคลผู้ยากไร้ และประชาชนในชนบทห่างไกล โดยได้เสด็จพระราชดำเนินติดตามพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 9 ไปยังทุกพื้นที่ของประเทศไทย และยังทรงปฏิบัติพระราชกรณียกิจด้านการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ และความหลากหลายทางชีวภาพของประเทศมาอย่างต่อเนื่องยาวนาน เป็นที่ประจักษ์แก่สาธารณชนทั้งในและต่างประเทศ มีผลสำเร็จอย่างเป็นรูปธรรม พระราชกรณียกิจที่สำคัญที่ได้ขยายเป็นวงกว้างไปยังทุกพื้นที่ในประเทศไทย คือ “โครงการศูนย์ศิลปาชีพฯ” เพื่อเป็นการส่งเสริมอาชีพให้กับคนไทย พร้อมทั้งเป็นการอนุรักษ์งานศิลปหัตถกรรมพื้นบ้านของไทยให้คงอยู่กับสืบไป นอกจากนั้นยังทรงดำรงตำแหน่ง “สภานายิกาสภากาชาดไทย” ซึ่งเป็นองค์กรสาธารณะกุศลที่ก่อตั้งขึ้น โดยมีภารกิจในการช่วยเหลือผู้ป่วย โดยไม่คำนึงถึงเชื้อชาติและศาสนา
ทีมข่าวกาญจนบุรี