จากกรณีการสอบสวนคดีฆาตกรรม นายพอละจี รักจงเจริญ หรือ บิลลี่ แกนนำกะเหรี่ยงบ้านโป่งลึก-บางกลอย อ.แก่งกระจาน จ.เพชรบุรี จากการหายตัวไปตั้งแต่ปี 2557 ก่อนที่จะมีการพบกะโหลกมนุษย์ในถังน้ำมันขนาด 200 ลิตร ใต้น้ำ บริเวณสะพานแขวนเหนืออ่างเก็บน้ำเขื่อนแก่งกระจาน ซึ่ง กรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือ DSI ใช้เวลาเกือบ 3 เดือน ในการลงพื้นที่เก็บหลักฐานและมีความเห็นส่งฟ้อง เจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน 4 คน ในข้อหาฆาตกรรม นายพอละจี หรือ บิลลี่
ต่อมาอัยการฝ่ายคดีพิเศษ 1 มีความเห็นสั่งไม่ฟ้องผู้ต้องหาทุกคนในข้อหาร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน ส่วนข้อหาอื่น ๆ ตามที่พนักงานสอบสวนคดีพิเศษเสนอ พนักงานอัยการสั่งฟ้องนายชัยวัฒน์ กับพวก เพียงข้อหาความผิดฐานเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหน้าที่หรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอย ตามมาตรา 157 แห่งประมวลกฎหมายอาญาเท่านั้น
อย่างไรก็ตาม กรมสอบสวนคดีพิเศษ ได้ส่งสำนวนคดีอาญา พ่วงสำนวนคดีสืบพยานก่อนฟ้อง พร้อมความเห็นแย้งคำสั่งไม่ฟ้องผู้ต้องหาทั้งสี่ ไปยังอัยการสูงสุดเพื่อพิจารณาชี้ขาด ซึ่งอัยการสูงสุดมีคำสั่งให้สอบสวนเพิ่มเติม ต่อมาตามหนังสือที่อ้างถึง ส่งสำนวนพร้อมผลการสอบเพิ่มเติมมาเพื่อประกอบการพิจารณาชี้ขาดนั้น
ที่ผ่านมา สำนักงานอัยการสูงสุด ส่งเอกสาร ถึง อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ มีคำสั่ง ชี้ขาดให้ฟ้อง นายชัยวัฒน์ ลิมลิขิตอักษร กับพวกรวม 4 คน ประกอบด้วย นายชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร , นายบุญเเทน บุษราคำ , นายธนเสฎฐ์ หรือ ไพฑูรย์แช่มเทศ เเละนายกฤษณพงษ์ จิตต์เทศ ในข้อหา
1. ร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อนและเพื่อจะเอาหรือเอาไว้ซึ่งผลประโยชน์อันเกิดแก่เเต่การที่ตนได้กระทำความผิดอื่นเพื่อปกปิดความผิดอื่นของตนหรือเพื่อหลีกเลี่ยงให้พ้นอาญาในความผิดอื่นที่ตนกระทำไว้
2. ร่วมกันโดยมีอาวุธข่มขืนใจโดยให้ผู้อื่นกระทำการใด ไม่กระทำการใด หรือจำยอมต่อสิ่งใดโดยทำให้กลัวว่าจะเกิดอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย เสรีภาพ ชื่อเสียงหรือทรัพย์สินของผู้ถูกข่มขืนใจนั้นเอง
3. ร่วมกันหน่วงเหนี่ยวหรือกักขังผู้อื่นหรือกระทำด้วยประการใดให้ผู้อื่นปราศจากเสรีภาพในร่างกายเป็นเหตุให้ผู้ถูกหน่วงเหนี่ยวถูกกักขังหรือต้องปราศจากเสรีภาพในร่างกายนั้นถึงแก่ความตาย
4. ร่วมกันทุจริตหรืออำพรางคดีกระทำการใดๆ แก่ศพหรือสภาพแวดล้อมในบริเวณที่พบศพก่อนการชันสูตรพลิกศพเสร็จสิ้น ในประการที่น่าจะทำให้การชันสูตรพลิกศพหรือผลทางคดีเปลี่ยนแปลงไป
