ไวน์กาแฟ มูลค้างคาว หนึ่งเดียวในโลก ใช้กรรมวิธีบ่มไวน์ ไว้ในถ้ำ ที่กระบี่  ได้รสชาติ มุ่มละมุนละไม มีประโยชน์ ต้านอนุมูลอิสสระ ชะลอความแก่

นายเขตร เทพไชย   ประธานกลุ่มวิสาหกิจชุมชน กาแฟมูลค้างคาวบ้านบางเหลียว ตำบลคีรีวงศ์ อำเภอปลายพระยา จังหวัดกระบี่ เก็บเมล็ดกาแฟ ที่สุกเต็มที่ จากต้นกาแฟ  สายพันธ์มาจาก พบเมล็ดกาแฟจาก มูลค้างคาว ที่อาศัยอยู่ ภายในถ้ำ  วารีรินทร์ และโถงถ้ำต่างๆ ในพื้นที่  เมื่อประมาณ 9 ปีก่อน   จึงนำมาทดลองปลูกในสวนกาแฟเดิมที่มีอยู่แล้ว  โดยใช้ปุ๋ยมูลค้างคาวบำรุงต้น พบว่า มีการเจริญเติบโตดี กาแฟที่ได้มีรสชาติ หอม อร่อย รสไม่ขมจนเกินไป ไม่ต้องผสมน้ำตาลหรือนมข้นหวานเวลาดื่มกิน จึงนำมาผลิตเป็นผลิตกาแฟมูลค้างคาว กลุ่มวิสาหกิจบ้านบางเหลียว  เป็นผลิตภัณฑ์สินค้าโอทอปที่กำลังได้รับความนิยม  ของผู้บริโภคในขณะนี้ 

นายเขตร เทพไชย กล่าวทางกลุ่มมีความคิดเพิ่มมูลค่า โดยนำเมล็ดกาแฟที่ได้ทดลอง ทำไวน์ กาแฟมูลค้างคาว โดยเลือเมล็ดกาแฟที่สุก มีสีแดง สีล้ม นำมาล้างทำความสะอาด จากนั้นทำการ ใช้ครกตำให้เปลือกนอกของเมล็ดกาแฟแตก นำไปต้มในน้ำเดือด เป็นระยะเวลา 15 นาที โดยเมล็ดกาแฟสด 1 กิโลกรัม ใช้น้ำ 20 ลิตร เมื่อครบเวลา ตั้งทิ้งไว้ให้เย็น กรองกากเปลือก เมล็ด ออก นำน้ำกาแฟ ที่ได้ ผสมกับ ยีสต์  ที่ได้จากธรรมชาติ โดยใช้ น้ำผี้งดองกับ กล้วยน้ำว้า  นำไปเก็บ หรือ การบ่มไวน์  โดย นำไปบ่มไว้ ตาม ซอกหิน ภายในถ้ำ เนื่องจาก มีอณหภูมิ คงที่ อยู่ ที่ 13-15 องศาเซลเซียส ตามระยะเวลา ที่ต้องการ อย่างน้อย 1 ปี จะได้ไวน์ที่มีรสชาติ  หอม ละมุน ตามที่ต้องการ มีสรรพคุณ ต้านอนุมูลอิสสระ ชะลอความแก่ ลดความเสี่ยงของโรคหัวใจ .ลดและป้องกันมะเร็ง ลดปริมาณคอเลสเตอรอล  ช่วยในการย่อย  ช่วยในลดและคลายความเครียด  ป้องกันโรคความจำเสื่อม สุขภาพเหงือกและฟัน   ซึ่งกำลังเป็นที่นิยมแก่คอนักดื่มไวน์เช่นกัน   ผู้ที่สนใจ ทดลองดื่ม  ติดต่อได้ที่ คุณเขตร เทพไชย  โทร  089-9722513  หรือเฟสบุ๊ค กาแฟมูลค้างคาว 

ทีมข่าวกระบี่