สคทช.ผนึก 21 หน่วยงานรัฐทำ MOU ร่วมบริหารจัดการที่ดินทั่วประเทศ ตั้งเป้า 5 ปีพัฒนาระบบสาธารณูปโภคและโครงสร้างพื้นฐานที่จำเป็นในพื้นที่ คทช. ช่วยเหลือประชาชนส่งเสริมพัฒนาอาชีพยกระดับคุณภาพชีวิต
แหล่งข่าวทำเนียบรัฐบาล เปิดเผยว่า ในช่วงเช้าวันที่ 2 กันยายน 2565 สำนักงานคณะกรรมการนโยบายที่ดินแห่งชาติ (สคทช.) ที่มีดร.รวีวรรณ ภูริเดช เป็นผู้อำนวยการ จะจัดให้มีพิธีลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (MOU) ร่วมกับ 21 หน่วยงาน ในโครงการบูรณาการพัฒนาระบบสาธารณูปโภคและโครงสร้างพื้นฐานที่จำเป็นในพื้นที่ คทช. ณ ห้องแกรนด์บอลรูม โรงแรมรามาการ์เดนส์ ถนนวิภาวดีรังสิต โดยมีพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี รักษาการนายกรัฐมนตรี เป็นประธาน
ก่อนหน้านี้ พล.อ.ประวิตร ในฐานะรองประธานคณะกรรมการนโยบายที่ดินแห่งชาติ (คทช.) ได้มีข้อสั่งการให้ทุกหน่วยงาน ทั้งส่วนกลาง ส่วนภูมิภาค และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นพิจารณาดำเนินการแก้ปัญหาด้านการบริหารจัดการที่ดินและทรัพยากรดินของประเทศ โดยเฉพาะในส่วนที่เกี่ยวข้องกับความเป็นอยู่ของประชาชน ให้มีการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานและระบบสาธารณูปโภคพื้นฐาน ตลอดจนส่งเสริมพัฒนาอาชีพและคุณภาพชีวิตให้ราษฎรมีรายได้ที่มั่นคง และมีคุณภาพชีวิตที่ดี
ตามพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) คณะกรรมการนโยบายที่ดินแห่งชาติ พ.ศ.2562 ที่กำหนดให้มี คทช. เพื่อทำให้การบริหารจัดการที่ดินและทรัพยากรดินเป็นเอกภาพ การแก้ปัญหาแนวเขตที่ดินทับซ้อนระหว่างหน่วยงาน และหน่วยงานกับประชาชน แก้ปัญหาประชาชนอยู่ในที่ดินรัฐ ส่งเสริมคุณภาพชีวิตของประชาชนด้วยการสนับสนุนโครงสร้างพื้นฐาน ระบบสาธารณูปโภค พัฒนาอาชีพเกษตรและนอกภาคเกษตร
“การที่ พล.อ.ประวิตร นัดหมาย 22 หน่วยงานมาเซ็น MOU ร่วมกันก็เพื่อต้องการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับการบริหารจัดการที่ดินของรัฐมีความเข้าใจตรงกันและดำเนินงานในทิศทางเดียวกัน มีการกำหนดแผนงานและเป้าหมายร่วมกัน มีความรวดเร็วทันต่อความต้องการของพี่น้องประชาชน และมีการติดตามแก้ไขปัญหาอุปสรรคไปด้วยกัน” แหล่งข่าวกล่าว
สำหรับ 21 หน่วยงานที่จะร่วมลงนาม ประกอบด้วย 3 กลุ่ม คือ กลุ่มหน่วยงานเจ้าของพื้นที่ ได้แก่ กรมป่าไม้ กรมที่ดิน กรมธนารักษ์ กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง สำนักงานปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม (ส.ป.ก.) กรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการ กรมส่งเสริมสหกรณ์ กรมอุทธยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช
กลุ่มหน่วยงานงานพัฒนา ได้แก่ การประปาส่วนภูมิภาค การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค กรมทางหลวงชนบท กรมพัฒนาพลังงานทดแทนและอนุรักษ์พลังงาน สถาบันพัฒนาองค์กรชุมชน(องค์การมหาชน) กรมทรัพยากรน้ำบาดาล กรมชลประทาน กรมทรัพยากรน้ำ กรมพัฒนาที่ดิน กรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น กรมโยธาธิการและผังเมือง และกลุ่มหน่วยงานสนับสนุนส่งเสริม ได้แก่ กรมการปกครอง กรมการพัฒนาชุมชน
แหล่งข่าวกล่าวว่า บันทึกข้อตกลงความร่วมมือครั้งนี้กำหนดเวลาการทำงานร่วมกันไว้ 5 ปี แต่ไม่ก่อให้เกิดความผูกพันทางกฎหมายระหว่างกัน