ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเย็นวันที่ 26 สิงหาคม 2565 ประชาชนชุมชนวัดโลกโมฬี แม่ขิง คลองเงิน ชุมชนสามัคคีพัฒนา ถูกไล่ที่อีก ให้ย้ายออก รวม 139 ครัวเรือน วอนของบพัฒนาคลองแม่ข่า ปีละ 2,400 ล้าน มาซื้อที่ดินให้ชาวบ้านสร้างบ้านย้ายจากชุมชนไปอยู่ งบประมาณมากขนาดนี้ หากทำได้ครอบทั้งเมืองเชียงใหม่ รวม 1,800 หลังคาเรือนได้อยู่บ้านไปนานแล้ว วันนี้ชาวบ้านรวมตัวหารือ เผยยังพบที่ดินไกล้เคียงวัดโลกโมฬี ในอดีตเป็นของวัด แต่มีนายทุนนำไปออกเอกสารสิทธิ์ ทำสถานบันเทิง โต๊ะสนุ๊กเกอร์ และทำปั๊มน้ำมันอีกด้วย

ที่ศาลาเอนกประสงค์วัดโลกโมฬี ต.ศรีภูมิ อ.เมือง จ.เชียงใหม่ ชาวบ้านอยู่อาศัยใกล้วัดโลกโมฬี ได้มีการประชุมแก้ไขปัญหาที่อยู่อาศัยชาวบ้านของ 4 ชุมชน มีชุมชนวัดโลกโมฬี ชุมชนแม่ขิง ชุมชนคลองเงิน และชุมชนสามัคคีพัฒนา ที่สร้างบ้านเรือนอยู่ริมลำเหมืองคลองแม่กระแจะตลอดสาย รวม 139 หลังคาเรือน ซึ่งลำเหมืองแม่กระแจะ เป็นคลองสาขาที่ไหลลงสู่คลองแม่ข่า มีเจ้าหน้าที่จากสำนักงานพัฒนาชุมชนเมือง(พชม.) มาพูดกับชาวบ้าน ให้ออมทรัพย์กับโครงการบ้านมั่นคงกับ พมช.เพื่อมีเงินสร้างบ้านต่อไป หากประสานหน่วยงานที่รับผิดชอบ เรื่องหาที่ดินเพื่อปลูกสร้างบ้านให้ชาวบ้านอยู่อาศัย

ชาวบ้านมาประชุมครั้งนี้ เพื่อต้องการให้หน่วยงานที่รับผิดชอบมาดูแลชาวบ้านที่อาศัยอยู่มาก่อนหลายชั่วอายุคนแล้วตามริมคลองกระแจะ มาฟังความคิดเห็นตัวแทนชาวบ้าน นายนิคม กันธะรส อายุ 62 ปี อยู่เลขที่ 5/13 ซ.2 ถนนมณีนพรัตน์ ต.ศรีภูมิ บอกว่า ตนมาอยู่นานกว่า 30 ปีแล้ว บุตรหลานก็เรียนจบกันหมดแล้ว การที่จะให้ประชาชนชนได้ออกไปก็ต้องหาที่อยู่ที่มั่นคงถาวร ซึ่งก่อนนั้นมีการเลือกตั้งก็ยังออกทะเบียนบ้านให้ชาวบ้านได้มีสิทธิ์เลือกตั้ง และให้เป็นกรรมการการเลือกตั้งมาแล้ว แต่พอจะให้เราย้ายออก ก็ต้องมีหลักประกันเรื่องที่อยู่อาศัยที่มั่นคงให้เราด้วย

"บ้านผมมี 7 คน การที่จะให้ยายออก แน่นอนจะไปอยู่ไหนนั้นต้องรู้ว่าที่อยู่อาศัยมีมั่นคงหรือยัง หาที่ดินให้ก่อนก็ได้ ชาวบ้านสร้างบ้านสร้างบ้านเองได้ หากจะเปรียบเทียบกับงบประมาณการพัฒนาคลองแม่ข่า ปีละ 2,400 ล้านบาททุกปี นำเงินงบประมาณส่วนนี้ไปซื้อที่ดินให้ชาวบ้านก่อน ผมว่า งบประมาณที่หมดไปหากทำแบบที่ผมบอก จะสร้างบ้านเรือนให้ชาวบ้านได้ครบจำนวน 1,800 หลังคาเรือนในเมืองเชียงใหม่ได้อยู่ครบหมดทุกหลังคาเรือนไปนานแล้ว" นายนิคม กันธะรส ตัวแทนชาวบ้านกล่าว

และมีตัวแทนชาวบ้านคนหนึ่ง บอกว่า เมื่อออกทะเบียนบ้านได้ แบบเอาชาวบ้านเป็นฐานของการเมืองไม่ถูก เมื่อจะให้ชาวบ้านออกไปอยู่ที่แห่งใหม่ ต้องหาที่ดินให้ เมื่อมีที่ดินแล้วก็ของบประมาณจากมูลนิธิฯที่ช่วยเหลือสังคมต่างๆในเชียงใหม่ ขอสนับสนุนอุปกรณ์สร้างบ้านให้ ต้องฝาก พมช.และเทศบาลนครเชียงใหม่จัดหาที่ดินให้ชาวบ้านก่อน ถึงจะสร้างบ้านและย้ายออกไปอยู่ที่ใหม่ได้ต่อไป 

ชาวบ้านคนหนึ่ง บอกอีกว่า ปัญหาที่ดินที่ชาวบ้านอยู่อาศัยริมคลองกระแจะ มีปัญหาแล้ว ยังพบปัญหาที่ดินรอบๆวัดโลกโมฬี ก็พบว่า มีนายทุนเข้ามาบุกรุกในรูปแบบต่างๆด้วย เช่น ในอดีตที่ดินที่เป็นโต๊ะสนุ๊กเกอร์ปัจจุบัน ก่อนนั้นเป็นที่วัดโลกโมฬี มีนายทุนนำที่ดินไปออกเอกสารสิทธิ์และเป็นที่ของเอกชนไปแล้ว และยังพบอีกว่าที่ดินติดกับวัดโลกโมฬีที่เป็นปั๊มน้ำมันยี่ห้อดัง ก็เป็นที่ดินของวัดโลกโมฬีที่เช่าที่ใช้อยู่ ก็บุกรุกที่วัดใช้ประโยชน์เกินจากที่ดินเช่าใช้อยู่ในปัจจุบันอีกด้วย และหากหมดสัญญาเช่าไปแล้วชาวบ้านก็ต้องการให้เอกชนคืนพื้นที่ดินให้วัดใช้ประโยชน์ก็จะเป็นประโยชน์กับชาวบ้านส่วนรวมได้ต่อไป.

ทีมข่าวเชียงใหม่