ปราบโกงยุคดิจิทัล หนุน ผู้นำ ใช้ Ai เป็นอาวุธยกระดับใช้ Ai ปราบโกงในยุคดิจิทัล ACTชวนคนไทยสแกน“ยันต์กันโกง” เข้าถึง “แพลตฟอร์ม ACT Ai” ใช้เป็นอาวุธสู้โกง พร้อมชูบทบาท “ผู้นำ...กับการปราบโกง”ต้องเท่าทัน เป็นต้นแบบการมีส่วนร่วม ปลุกพลังนำพาประชาชนไล่จับคนโกง ปราบปีศาจคอร์รัปชันให้สิ้นอิทธิฤทธิ์ ยุติความเสียหายให้ประเทศไทย
นายวิเชียร พงศธร ประธานองค์กรต่อต้านคอร์รัปชัน (ประเทศไทย) หรือ ACT กล่าวว่า องค์กรต่อต้านคอร์รัปชันผนึกกำลังร่วมกับองค์กรสมาชิกกำหนดให้ทุกวันที่ 6 กันยายน ของทุกปี เป็นวันต่อต้านคอร์รัปชัน โดยได้ร่วมกันจัดกิจกรรมต่อต้านคอร์รัปชันต่อเนื่องเป็นประจำทุกปีตั้งแต่ปี 2554 เป็นต้นมา แม้การขับเคลื่อนเพื่อแก้ไขปัญหาการคอร์รัปชันจะดำเนินการมาอย่างต่อเนื่อง แต่ยิ่งพบว่าปัญหาเพิ่มความซับซ้อน มีการหาช่องว่าง ช่องโหว่ รวมทั้งนำเทคโนโลยีทันสมัยมาเอื้อต่อการคอร์รัปชันมากขึ้นรูปแบบการฮั้วประมูลประกวดราคาอิเล็กทรอนิกส์ (e-bidding) ที่คนโกงยังหาช่องทุจริตได้ หรือการจัดซื้อจัดจ้างในท้องถิ่น ที่ยกข้ออ้างเรื่องนวัตกรรมมาเพิ่มราคากลางให้สูงขึ้น
“ทั้งนี้ เราต้องรู้เท่าทันรูปแบบการโกงด้วยการนำเทคโนโลยีในยุคดิจิทัลมาใช้ผ่านเครื่องมือ ACT Ai เพื่อป้องกันการโกงได้อย่างแม่นยำ อาทิ กรณีเสาไฟกินรีโซลาร์เซลล์ในพื้นที่องค์การบริหารส่วนตำบลราชาเทวะ จังหวัดสมุทรปราการ เป็นกรณีศึกษาที่พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่าเมื่อใช้เครื่องมือตรวจสอบที่เข้าถึงข้อมูลภาครัฐอย่างรวดเร็ว จะช่วยยับยั้งความเสียหายจากการโกงได้มีประสิทธิภาพมากขึ้น ประชาชนสามารถเข้าถึงการใช้งานแพลตฟอร์ม ACT Ai ด้วยการสแกนคิวอาร์โค้ด (QR Code) ผ่านยันต์กันโกงทางเพจเฟสบุ๊กองค์กรต่อต้านคอร์รัปชันซึ่งจะสามารถใช้งานเครื่องมือ ACT Ai ได้อย่างหลากหลาย” ประธานองค์กรต่อต้านคอร์รัปชัน ระบุ
นอกจากนี้ นายวิเชียร ยังย้ำถึงบทบาทของผู้นำว่า มีความสำคัญอย่างยิ่งต่อการปราบโกง เพราะผู้นำคือต้นแบบ หากได้ผู้นำที่มุ่งโกงกินจะก่อให้เกิดความเสียหายใหญ่หลวง ดังนั้นประชาชนต้องสนับสนุนผู้นำที่โปร่งใสมุ่งประโยชน์ส่วนรวมและสนับสนุนการตรวจสอบจากภาคประชาชน รวมทั้งส่งเสริมให้ประชาชนมีโอกาสใช้เครื่องมือที่ทันสมัยตรวจสอบการคอร์รัปชัน นอกจากนี้จากบทบาทของผู้นำในระดับจังหวัดและท้องถิ่นที่ร่วมเวทีเสวนา 2 ครั้งก่อนหน้านี้ จัดโดยความร่วมมือของกระทรวงมหาดไทย สถาบันพระปกเกล้า สถาบันพัฒนาองค์กรชุมชน (องค์การมหาชน) สมาคมองค์การบริหารส่วนจังหวัดแห่งประเทศไทย สมาคมสันนิบาตเทศบาลแห่งประเทศไทย และสมาคมองค์การบริหารส่วนตำบลแห่งประเทศไทยเพื่อร่วมกันเปิดพื้นที่ทางความคิด โดยผู้ว่าราชการจังหวัดและผู้นำระดับท้องถิ่นได้ตระหนักถึงบทบาทความสำคัญของประชาชนในการการมีส่วนร่วมเป็นพลังปราบโกงไปด้วยกัน ซึ่งสอดคล้องกับการขับเคลื่อนแนวคิด “ผู้นำ...กับการปราบโกง” ในปีนี้ด้วย
ขณะเดียวกัน ผศ.ดร.ต่อภัสสร์ ยมนาค ผู้ดูแลโปรเจกต์ ACT Ai ระบุถึงการนำระบบปัญญาประดิษฐ์(Ai) มาสนับสนุนการตรวจสอบการคอร์รัปชันว่า จากเดิมการตรวจสอบข้อมูลเอกสารราชการทำได้ยากและยังไม่ปลอดภัยต่อตัวผู้ตรวจสอบ ส่งผลให้ประชาชนหลายคนไม่กล้าแสดงบทบาทนี้ องค์กรต่อต้านคอร์รัปชันและพันธมิตรได้ออกแบบแพลตฟอร์ม ACT Ai เพื่อให้ประชาชนสามารถใช้งานได้ง่ายและปลอดภัย เชื่อมโยงฐานข้อมูลภาครัฐ ที่ผ่านมาใช้ตรวจสอบการทุจริตเสาไฟกินรีด้วย ACT Ai โดยประชาชนและสื่อได้รับความสำเร็จมาแล้ว ทั้งนี้ หวังเป็นอย่างยิ่งว่าเครื่องมือ ACT Ai จะได้รับการยอมรับจากประชาชนเพื่อใช้เป็นอาวุธ ในการปราบโกง เพราะถ้าหากเราไม่ร่วมมือช่วยกันปราบโกงแล้ว จะยิ่งทำให้ปีศาจคอร์รัปชันมีอิทธิฤทธิ์สูงขึ้น ส่งผลให้เกิดความเสียหายต่อประเทศเพิ่มขึ้นตามมา
ทั้งนี้ ประชาชนสามารถเข้าใช้งาน ACT Ai ผ่านการกดเข้าใช้งานได้ที่ https://actai.co เพื่อเข้าถึงฐานข้อมูลในการตรวจสอบอย่างหลากหลาย ประกอบด้วย โครงการจัดซื้อจัดจ้างภาครัฐ, ระบบจับโกงงบ COVID, โครงการ Build Better Lives by CoST, การตรวจสอบบัญชีทรัพย์สินนักการเมือง, การตรวจสอบงบท้องถิ่น, กระดานวิเคราะห์ความเชื่อมโยงเครือข่ายการโกง (Corruption Analysis Dashboard), การตรวจสอบการใช้งบในโรงเรียนด้วย School Governance และยังรวมถึงแพลตฟอร์มที่ระดมไอเดียใหม่ ๆ จากโครงการ ACTKathon เช่น แจ้งเบาะแสเหตุสงสัยทุจริตคอร์รัปชันผ่าน LINE OA : จับตาไม่ให้ใครโกง Corruption Watch (@corruptionwatch) และ Voice of Change เครื่องมือรับแจ้งเบาะแสการทุจริตสำหรับเจ้าหน้าที่รัฐ เป็นต้น