คณะอนุกรรมการประกันสังคม จ.พระนครศรีอยุธยา พิจารณาเห็นชอบให้การช่วยเหลือผู้ประกันตนฯ 11 ราย กรณีทุพพลภาพให้ได้รับเงินทดแทนจากการขาดรายได้ เตือนผู้ประกันตนหมั่นตรวจสุขภาพป้องกันก่อนเกิดโรครุนแรง
วันนี้ (21 ก.ย. 65) เวลา 13.30 น. ที่ ห้องประชุมบึงพระราม ศาลากลางจังหวัดพระนครศรีอยุธยา นายไพรัตน์ เพชรยวน รองผู้ว่าราชการจังหวัดฯ เป็นประธานการประชุมคณะอนุกรรมการประกันสังคมจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ครั้งที่ 5/2565 โดยมี นางเบญจวรรณ รัตนภาค ประกันสังคมจังหวัดพระนครศรีอยุธยา เป็นฝ่ายเลขานุการ พร้อมด้วย คณะอนุกรรมการฯ ประกอบด้วย หัวหน้าส่วนราชการ ผู้แทนฝ่ายนายจ้าง ผู้แทนฝ่ายลูกจ้าง ผู้แทนเครือข่ายแรงงานนอกระบบ และผู้เกี่ยวข้อง เข้าร่วมประชุม เพื่อติดตามความก้าวหน้าการดำเนินงานและพิจารณาการขอรับประโยชน์ทดแทนกรณีทุพพลภาพของผู้ประกันตน จำนวน 11 ราย
นางเบญจวรรณ รัตนภาค เปิดเผยว่า การประชุมครั้งนี้ เพื่อรายงานผลการดำเนินงาน สถานการณ์บริหารเงินลงทุน และสถานประกอบการที่ค้างชำระเงินสมทบกองทุนประกันสังคมและกองทุนเงินทดแทนที่จะจำหน่ายหนี้ออกจากบัญชีเป็นสูญ ประจำเดือน สิงหาคม 2565 ที่ผ่านมา ทั้งนี้ ที่ประชุมได้ร่วมพิจารณาเห็นชอบให้ผู้ประกันตนที่ขอรับประโยชน์ทดแทนกรณีทุพพลภาพ จำนวน 11 ราย ให้เป็นผู้ทุพพลภาพ และจะได้รับเงินทดแทนการขาดรายได้ตลอดชีวิต จำนวน 9 ราย ประกอบด้วย นายสุชาติ กองวาจา ผู้ประกันตนมาตรา 39 เป็นผู้ทุพพลภาพเนื่องจากโรคหมอนรองกระดูกหลังเสื่อม จะได้รับเงินทดแทนการขาดรายได้เป็นเงินเดือนละ 2,400 บาท นายประสาน อินยอด ผู้ประกันตนมาตรา 39 เป็นผู้ทุพพลภาพเนื่องจากกระดูกหลังหักยุบ กระดูกหลังเคลื่อนกดทับเส้นประสาท จะได้รับเงินเดือนละ 2,400 บาท นายถาวร เขียวหวาน ผู้ประกันตนมาตรา 33 เป็นผู้ทุพพลภาพเนื่องจากเส้นเลือดสมองแตก จะได้รับเงินเดือนละ 7,500 บาท นายศิวา ศิวามงคลสกุล ผู้ประกันตนมาตรา 33 เป็นผู้ทุพพลภาพเนื่องจากอัมพฤกษ์ จะได้รับเงินเดือนละ 6,342 บาท นายวัชระ คล้ายประเสริฐ ผู้ประกันตนมาตรา 33 เป็นผู้ทุพพลภาพเนื่องจากอุบัติเหตุ ไม่รับรู้การสื่อสาร จะได้รับเงินเดือนละ 7,500 บาท น.ส.กรุณา ลาภเกิน ผู้ประกันตนมาตรา 39 เป็นผู้ทุพพลภาพเนื่องจากเลือดออกในสมอง จะได้รับเงินเดือนละ 2,400 บาท นางอุทัยวรรณ อันประเสริฐ ผู้ประกันตนมาตรา 39 เป็นผู้ทุพพลภาพเนื่องจากกระดูกสะโพกขวาหัก เดินไม่ได้ จะได้รับเงินเดือนละ 2,400 บาท นายสมาน สีนานนท์ ผู้ประกันตนมาตรา 33 เป็นผู้ทุพพลภาพเนื่องจากตาเป็นต้อหินตาบอดทั้ง 2 ข้าง จะได้รับเงินเดือนละ 6,396 บาท และ นายธีระ มีกลิ่นหอม ผู้ประกันตนมาตรา 33 เป็นผู้ทุพพลภาพเนื่องจากแขน-ขา ข้างซ้ายอ่อนแรง จะได้รับเงินเดือนละ 4,062 บาท และจะได้รับเงินทดแทนการขาดรายได้ระยะเวลา 15 ปี จำนวน 2 ราย ประกอบด้วย นายเกรียงไกร เผือกผ่อง ผู้ประกันตนมาตรา 33 เป็นผู้ทุพพลภาพเนื่องจากเส้นเลือดสมองแตก เป็นอัมพฤกษ์ จะได้รับเงินเดือนละ 4,360.50 บาท และน.ส.จารุวรรณ พิศสุวรรณ ผู้ประกันตนมาตรา 39 เป็นผู้ทุพพลภาพเนื่องจากเส้นเลือดดำในสมองอุดตัน จะได้รับเงินเดือนละ 1,440 บาท
ทีมข่าว จ.พระนครศรีอยุธยา