ประเทศไทยและฮังการี ร่วมกันสร้างความร่วมมือด้านการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ พร้อมเดินหน้าส่งเสริมการใช้รถยนต์ไฟฟ้าในประเทศ เพื่อเพิ่มการใช้พลังงานทดแทน
นายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติ กล่าวว่า จากการหารือกับ นายปีเตอร์ ซีย้าตโต้ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศและการค้า ประเทศฮังการี ได้ร่วมแลกเปลี่ยนนโยบายด้านการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศของประเทศไทย ที่มีความพยายามจะลดการใช้เชื้อเพลิงฟอสซิลและเพิ่มการใช้พลังงานทดแทน เช่น พลังงานแสงอาทิตย์ พลังงานลม โดยไทยมีนโยบายส่งเสริมการใช้รถยนต์ไฟฟ้า แม้ประเทศไทยจะปล่อยก๊าซเรือนกระจกเป็นอันดับที่ 21 ของโลก แต่อยู่ในลำดับที่ 9 ที่มีความเสี่ยงจะได้รับผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ทำให้ไทยจึงเป็นประเทศแรกที่ทำความตกลงร่วมกับสมาพันธรัฐสวิส ภายใต้การดำเนินงานตาม ข้อ 6.2 ของความตกลงปารีส เพื่อจัดทำกรอบความร่วมมือโดยสมัครใจ สำหรับการถ่ายโอนผลการลดก๊าซเรือนกระจกและให้การสนับสนุนโครงการส่งเสริมการใช้พลังงานสะอาดและยานยนต์ไฟฟ้า หรือ E-Bus ในกรุงเทพมหานคร เพื่อช่วยลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก รวมทั้ง ยังให้ความสำคัญกับการจัดการน้ำโดยเฉพาะและการบริหารจัดการน้ำบาดาลให้เป็นแหล่งน้ำสำหรับการอุปโภค-บริโภคที่สำคัญของประชาชนในพื้นที่วิกฤติขาดแคลนน้ำ
ขณะที่ นายปีเตอร์ ซีย้าตโต้ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศและการค้า ประเทศฮังการี กล่าวถึงนโยบายการใช้พลังงานของประเทศฮังการีว่า เน้นการใช้พลังงานจากนิวเคลียร์และพลังงานแสงอาทิตย์เป็นหลัก เนื่องจากไม่สามารถผลิตพลังงานไฟฟ้าจากน้ำได้ เพราะฮังการีมีแม่น้ำดานูบเป็นแม่น้ำระหว่างประเทศ แล้วได้แลกเปลี่ยนนโยบายด้านการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ การผลิตรถยนต์ไฟฟ้า เทคโนโลยีการผลิตแบตเตอรี่สำหรับรถยนต์ไฟฟ้าของฮังการี และเทคโนโลยีด้านการจัดการน้ำกับประเทศไทยด้วย ทั้งการหมุนเวียนนำน้ำกลับมาใช้ใหม่ และการจัดการน้ำเสีย เพราะในอนาคตจะสร้างความร่วมมือร่วมกันต่อไป