จากร่องมรสุมพาดผ่าน ภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือในขณะที่มรสุมตะวันตก เฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามันภาคใต้และอ่าวไทยมีกำลังอ่อนลงลักษณะเช่นนี้ทำให้ประเทศไทยมีผลตกต่อเนื่องและมีฝนตกหนักบางแห่งในภาคเหนือนั้น
โดยจังหวัดแพร่มีพื้นที่ได้รับผลกระทบจากฝนตกหนักในหลายพื้นที่ ทั้งหมด 3 อำเภอ 4 ตำบล 10 หมู่บ้าน โดยวันที่ 2 ตุลาคม 2565 ที่บ้านห้วยกูด หมู่ 5 ตำบลเด่นชัย อำเภอเด่นชัย จังหวัดแพร่ นางสาวนิติยา พงษ์พานิช รองผู้ว่าราชการจังหวัด รักษาราชการแทนผู้ว่าราชการจังหวัดแพร่พร้อมด้วย นายวาทิต ปัญญาคม ปลัดจังหวัดแพร่ นายกองโท อิสรา สุขแจ่มใส นายอำเภอเด่นชัย พันเอกจักรชัย สำเภา ผู้บังคับการกองพันทหารม้าที่ 12 กองพลทหารม้าที่ 1 ค่ายพระยาชัยบูรณ์ อำเภอเด่นชัย นายดำรงเกียรติ กิตติประพัฒน์ นายกเทศมนตรีเด่นชัย ลงพื้นที่มอบถุงยังชีพเพื่อให้การช่วยเหลือประชาชนผู้ประสบอุทกภัย ซึ่งถูกน้ำท่วมสูงประมาณ 2 เมตรครึ่ง จำนวน 15 หลังคาเรือน โดยเป็นน้ำป่าไหลหลากประกอบกับพื้นที่ฝนตกหนักน้ำขังระบายช้า โดยเจ้าหน้าที่ทหาร อาสาสมัครป้องกันภัยฝ่ายพลเรือน มูลนิธิอาสาสมัครกู้ชีพกู้ภัยในพื้นที่ได้ให้การช่วยเหลือประชาชนผู้ประสบภัยดังกล่าว จากนั้นรักษาราชการแทนผู้ว่าราชการจังหวัดแพร่ได้ลงพื้นที่ยังตำบลห้วยไร่ อำเภอเด่นชัย ซึ่งถูกน้ำแม่พวกเอ่อล้นตลิ่งเข้าท่วมบ้านเรือนประชาชนเช่นกัน ซึ่งเกิดจากฝนตกหนักในพื้นที่ภูเขาของจังหวัดแพร่กับจังหวัดอุตรดิตถ์ ทำให้มีน้ำป่าไหลลงมาในพื้นที่ตำบลห้วยไร่ทุกปี
อย่างไรก็ตามในระยะนี้ยังคงมีฝนตกอย่างต่อเนื่อง ทางนางสาวนิติยา พงษ์พานิช รองผู้ว่าราชการจังหวัด รักษาราชการแทนผู้ว่าราชการจังหวัดแพร่ได้สั่งการให้ทุกอำเภอ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเฝ้าระวัง และให้ความช่วยเหลือประชาชนอย่างเร่งด่วนกรณีเกิดอุทกภัยน้ำป่าไหลหลาก ดินโคลนถล่มในพื้นที่
ด้านสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดแพร่ รายงานผลกระทบจากพายุโซนร้อน โนรู และร่องมรสุมพาดผ่าน ระหว่างวันที่ 27 กันยายน – 2 ตุลาคม 2565 จังหวัดแพร่ได้รับผลกระทบ 3 อำเภอ 4 ตำบล 10 หมู่บ้าน
นางสาวนิติยา พงษ์พานิช รองผู้ว่าราชการจังหวัดแพร่ กล่าวว่า สืบเนื่องจากเมื่อคืนที่ผ่านมาเกิดฝนตกหนักในพื้นที่จังหวัดแพร่ พื้นที่ที่ได้รับความเดือดร้อนหนักทั้งหมด 3 อำเภอด้วยกัน 13 หมู่บ้าน อำภอที่โดนหนักที่สุดคืออำเภอเด่นชัย น้ำท่วมบ้านเรือนราฎร ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้ให้ความช่วยเหลือเบื้องต้นแล้ว อีกอำเภอคือ อำเภอวังชิ้น เป็นพื้นที่ท่วมซ้ำซาก ซึ่งเรามีการเตือนภัยล่วงหน้า สำหรับอำเภอเมืองนั้นเกิดน้ำป่าไหลหลากในพื้นที่ อยู่ระหว่างเฝ้าระวัง