มีเส้นทางเข้าออกเพียงทางเดียว ฝนตกหนักวิกฤตดินภูเขาสไลด์ปิดทับเส้นทางเข้าออกอำเภออุ้มผางซ้ำน้ำป่าถล่มคอสะพานเกือบขาดถนนไม่สามารถใช้งานได้อย่างน้อย 2 วัน ชาวดอยอำเภออุ้มผาง จังหวัดตาก ถูกตัดขาดจากโลกภายนอกรถติดยาวสะสมบนภูเขาหลายกิโลเมตร

เมื่อเวลา 12.00 น.( 3 ต.ค. 65 ) นายธันย์ปวัฒน์ ภูริวัฒนเมธ นายอำเภออุ้มผาง จังหวัดตาก รับแจ้งมีฝนตกหนักทั่วพื้นที่ชายแดนไทย-เมียนมา โดยเฉพาะบนถนนสายแม่สอด-อุ้มผาง ได้เกิดพายุฝนตกอย่างหนักและตกแช่ในพื้นที่ป่าดิบชื้นบนภูเขาสูงชันนานหลายชั่วโมงและส่งผลทำให้ดินภูเขาและหินภูเขารวมถึงต้นไม้ขนาดใหญ่จำนวนมากเกิดการอุ้มน้ำฝนไม่ไหวเกิดการสไลด์ตัวไหลบ่าลงจากยอดภูเขาสูงด้วยความเร็วสูงลงมาปิดทับบนเส้นทางเข้าออกจากอำเภอแม่สอดไปอำเภออุ้มผางแบบฉับพลันในช่วงหลักกิโลเมตรที่ 65 บ้านอุ้มเปี้ยม-บ้านแม่กลองใหญ่ ส่งผลทำให้การจราจรเป็นอัมพาตโดยทันที ซึ่งกองดินโคลนและต้นไม้ขนาดใหญ่ยังได้ล้มทับเสาไฟฟ้าแรงสูงหักโค่นเสียหายไปจำนวน 4 ต้น ส่งผลทำให้เกิดกระแสไฟฟ้าดับเป็นวงกว้างและบนถนนในจุดเกิดเหตุก็มีรถยนต์จำนวนมากจอดติดคาบนถนนกลางยอดดอยเนื่องจากไม่สามารถใช้เส้นทางได้ตามปกติจนรถทุกคันต้องวนกลับเข้าอำเภอพบพระและอำเภอแม่สอด 

ซึ่งหลังเกิดเหตุเจ้าหน้าที่หมวดทางหลวงช่องแคบ แขวงทางหลวงตากที่ 2 จังหวัดตาก ได้ส่งเจ้าหน้าที่พร้อมเครื่องจักรกลหนักเร่งเดินทางไปในพื้นที่เกิดเหตุแต่การเดินทางเข้าไปในพิกัดเกิดเหตุเป็นไปด้วยความยากลำบากเนื่องจากฝนตกหนักและยังไม่สามารถใช้เครื่องจักรกลหนักเข้าไปเคลียร์เส้นทางได้เนื่องจากพบว่าบนยอดเข้ายังคงมีทั้งดินทั้งหินยักษ์และต้นไม้ทยอยไหลลงมาบนถนนอย่างต่อเนื่องและยังเกิดดินสไลด์ขึ้นอีกหลายจุดในเวลาเดียวกันหลังจากฝนยังคงตกหนักแบบไม่ขาดสายจนเจ้าหน้าที่ต้องถอยห่างจากจุดดังกล่าวเนื่องจากเป็นพื้นที่อันตรายพร้อมติดป้ายเตือนห้ามประชาชนทุกคนงดเข้าใกล้พื้นที่เกิดเหตุโดยเด็ดขาด

ขณะเดียวกันมีรายงานเข้ามาว่าได้เกิดน้ำป่าจากภูเขาสูงไหลทะลักลงสู่ลำห้วยแม่กลอง ไหลล้นเข้าซัดคอสะพานข้ามลำห้วยแม่กลอง บ้านปรอผาโด้ หมู่ที่ 1 ตำบลโมรโกร อำเภออุ้มผาง จังหวัดตาก โดยแรงน้ำป่าได้กัดเซาะคอสะพานที่เชื่อมต่อถนนสายแม่สอด-อุ้มผาง ช่วง กม.ที่ 149 ซึ่งเป็นถนนสายเดียวกับกับจุดที่มีดินสไลด์ปิดทับเส้นทางอยู่นั้น จนส่งผลทำให้คอสะพานหวิดขาดรถทุกชนิดไม่สามารถสัญจรเข้าออกตัวอำเภออุ้มผางได้  ส่งผลทำให้ชาวบ้านต้องขับรถทุกชนิดวนกลับไปที่ตัวอำเภออุ้มผางและส่งผลทำให้ชาวอำเภออุ้มผางถูกตัดขาดจากโลกภายนอกอย่างสิ้นเชิง ซึ่งล่าสุดในจุดที่เกิดดินสไลด์ปิดทับเส้นทางมีรายงานว่าดินยังคงสไลด์ลงมาอย่างต่อเนื่องและจุดน้ำป่าซัดคอสะพานหวิดขาดนั้นนั้นระดับน้ำป่ากำลังเพิ่มขึ้นและอาจจะทำให้คอสะพานขาดในคืนนี้หากฝนไม่หยุดตก ซึ่งขณะนี้เจ้าหน้าที่ทุกภาคส่วนได้ส่งกำลังพลพร้อมเครื่องจักรกลหนักไปประจำในพื้นที่เกิดเหตุทั้งสองจุดแล้วและต้องรอให้ฝนหยุดตกถึงจามารถเข้าไปกู้สถานการณ์ได้ซึ่งเจ้าหน้าที่ประเมินว่าต้องใช้เวลานานถึงสองวันที่จะเคลียร์พื้นที่เพื่อเปิดเส้นทางได้ตามปกติบนเส้นทางที่มีเพียงเส้นทางเดียวที่เข้าออกตัวอำเภออุ้มผาง

ทีมข่าว จ.ตาก