นายชัยวัฒน์ โควาวิสารัช ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) กล่าวภายหลังการลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ “โครงการสนับสนุนเกษตรกรไทย” สานต่อความร่วมมือระหว่าง 2 องค์กรว่า บางจากฯ-ธ.ก.ส.ร่วมกันจัดทำโครงการเพื่อสร้างความเข้มแข็งอย่างยั่งยืนให้เกษตรกรไทยทุกมิติ เบื้องต้นดำเนินการ 3 โครงการหลัก ได้แก่ โครงการบัตรสินเชื่อเกษตรกร เพื่อสนับสนุนเงินทุนหมุนเวียนในการจัดซื้อปัจจัยการผลิต ปัจจุบันมีสถานีบริการน้ำมันบางจากร่วมโครงการ 480 แห่ง และจะเพิ่มเป็น 580 แห่ง ทั่วประเทศภายในสิ้นปีนี้ โครงการพัฒนาสถานีบริการน้ำมันบางจาก สกต. รวมถึงสนับสนุนสินเชื่อให้กับสหกรณ์ที่ต้องการเปิดสถานีบริการน้ำมันและทำธุรกิจ non-oil ในที่ดินของสหกรณ์ และโครงการสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับผลผลิตทางการเกษตร ด้วยการคัดสรรผลผลิตและผลิตภัณฑ์แปรรูปที่มีคุณภาพมาตรฐานมาจำหน่ายที่ร้าน SPAR รวมถึงศึกษาความเป็นไปได้ในการส่งไปจำหน่ายที่ร้าน SPAR ในต่างประเทศ ซึ่งโครงการต่าง ๆ เป็นการเตรียมความพร้อมของเกษตรกรไทยเพื่อเข้าสู่เศรษฐกิจยุค 4.0

      นายอภิรมย์ สุขประเสริฐ ผู้จัดการ ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) กล่าวว่า การร่วมมือในครั้งนี้เป็นการพัฒนาคุณภาพชีวิตเกษตรกรผ่านการดำเนินธุรกิจร่วมกันตั้งแต่ปี 2555 ช่วยลดภาระต้นทุนด้านน้ำมันเชื้อเพลิงให้เกษตรกรผ่านบัตรสินเชื่อเกษตรกร สะดวกและปลอดภัย มีรายการส่งเสริมการขายเพื่อมอบสิทธิพิเศษให้เกษตรกรลูกค้าผู้ถือบัตรอย่างต่อเนื่อง ซึ่งปัจจุบันมี 2 ล้านราย

      ทั้งนี้ ยังเป็นการเพิ่มศักยภาพขยายโอกาสทางธุรกิจให้กับสหกรณ์การเกษตร (สกก.) และสหกรณ์การเกษตรเพื่อการตลาดลูกค้า ธ.ก.ส.(สกต.) ด้วยการสนับสนุนสินเชื่อให้ สกก.และ สกต.เปิดสถานีบริการน้ำมันบางจากหรือปรับปรุงสถานีบริการให้ทันสมัย โดยขณะนี้มี สกต.ดำเนินการปั๊มชุมชนแล้ว 4 แห่ง และเตรียมขยายเป็น 6 แห่งในปีนี้ คาดว่าเกษตรกรจะได้รับประโยชน์กว่า 300,000 ครัวเรือน เพิ่มจุดบริการทางการเงินของ ธ.ก.ส.ในสถานีบริการน้ำมันบางจาก เพื่อขยายฐานลูกค้าและบริการบุคคลทั่วไปให้สามารถใช้บริการเงินของ ธ.ก.ส.อย่างสะดวกรวดเร็ว เช่นการติดตั้งตู้ ATM การเพิ่มช่องทางการระบายผลผลิตทางการเกษตรและสินค้าชุมชนโดยคัดสรรผลผลิตทางการเกษตรและสินค้าชุมชนจากลูกค้า ธ.ก.ส.มาวางจำหน่ายที่ร้าน SPAR ซูเปอร์มาร์เก็ตในเครือบางจากฯปัจจุบันมี 15 สาขาทั่วประเทศ เป็นการกระจายสินค้าที่มีคุณภาพจากเกษตรกรถึงมือผู้บริโภค เพิ่มช่องทางการตลาดและสร้างรายได้ให้เกษตรกรลูกค้า ธ.ก.ส. กระตุ้นเศรษฐกิจในระดับฐานราก นอกจากนี้ ยังเป็นการสร้างความยั่งยืนให้กับเกษตรกรผู้ปลูกปาล์มน้ำมันด้วยโครงการส่งเสริมการปลูกพืชพลังงานทดแทนและการจัดการธุรกิจครบวงจร โดยร่วมสนับสนุนให้เกษตรกรขยายพื้นที่ปลูกปาล์มน้ำมัน ส่งเสริมให้สถาบันเกษตรกรมีบทบาทในการบริหารจัดการเพิ่มมูลค่าของพืชพลังงานทดแทน เพื่อพัฒนาการปลูกปาล์มให้มีผลผลิตที่มีคุณภาพและมีตลาดรองรับ