เผยยอดชาวบ้านหาเห็ดติดในป่านาน 3 วัน ไม่ใช่แค่ 20 ราย แต่เกือบ 100 คน มีทั้งเด็กและผู้ใหญ่ ตชด.-อุทยานฯ เร่งเข้าช่วยแต่ต้องถอย เหตุ รถโฟวิลยังต้องยอมถอย ต้องรอระดับน้ำลดเท่านั้น

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากกรณีชาวบ้านรวมตัวเข้าป่าไปหาเห็ดโคน ในเขตอุทยานแห่งชาติไทรโยค ท้องที่ป่าดงสัก ป่าห้วยลึก และป่าคอกวัว เขตติดต่อระหว่างหมู่ 8 บ้านบ้องตี้น้อย และหมู่ 9 บ้านชายทุ่ง ต.วังกระแจะ อ.ไทรโยค จ.กาญจนบุรี แต่ชาวบ้านทั้งหมดไม่สามารถกลับออกมาจากป่าและบนภูเขาได้ เนื่องจากลำห้วยลึกที่ขวางทาง ถูกป่าไหลหลากเข้าท่วมจนเอ่อล้นทำให้กระแสน้ำไหลเชี่ยวอย่างรุนแรง  โดยชาวบ้านทั้งหมดได้เข้าไปหาเห็ดโคนตั้งแต่วันที่ 8 ต.ค.65 ที่ผ่านมา 

โดยหลังเกิดเหตุ นายเนรมิต เหลืองอร่ามฟ้า นายอำเภอไทรโยค พ.ต.อ.สุกิจ ก้องจตุศักดิ์ ผกก.ตชด.13 (ค่ายพระพุทธยอดฟ้า) พ.ต.ท.ยอดยิ่ง ชมมี รอง ผกก.ตชด.13 (ค่ายพระพุทธยอดฟ้า) นายสุพล คำเสนาะ หัวหน้าอุทยานแห่งชาติไทรโยค ได้สั่งการให้เจ้าหน้า ตชด.เขาปลาน้อย เจ้าหน้าที่หน่วยพิทักษ์อุทยานแห่งชาติไทรโยค (โป่งไข่) บ้านทุ่งมะเซอย่อ ต.บ้องตี้ อ.ไทรโยค จ.กาญจนบุรี นำกำลังเข้าไปให้ความช่วยเหลือ เจ้าหน้าที่ ตร.สภ.ไทรโยค วางแผนนำกำลังเข้าไปให้ความช่วยเหลืออย่างเต็มที่แต่ก็ยังไม่สามารถช่วยชาวบ้านออกมาได้

ล่าสุด เมื่อเวลา 13.00 น.วันนี้ 12 ต.ค.65 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พ.ต.อ.สุกิจ ก้องจตุศักดิ์ (ค่ายพระพุทธยอดฟ้า) พ.ต.ท.ยอดยิ่ง ชมมี รอง ผกก.ตชด.13 (ค่ายพระพุทธยอดฟ้า) ได้รับรายงานจาก ร.ต.อ.กมลชัย  ผงทอง รอง ผบ.ร้อย ตชด.136 พร้อมด้วย ด.ต.เชาวน์นนท์  ครุฑฉ่ำ จนท.แผนฯ และ ส.ต.ท.ยุทธนา  ชำนาญจันทร์  พลขับ ที่ร่วมเดินทางเข้าไปสำรวจตรวจสอบกลุ่มบุคคลที่ออกหาเห็ดโคนว่า 

สำหรับชาวบ้านที่เข้าไปหานั้นมีอยู่ด้วยกัน 3 จุด จุดแรกที่บริเวณป่าดงสัก มีประมาณ 30 คน จุดที่สองคือที่บริเวณป่าห้วยลึก มีประมาณกว่า 20 คน และจุดที่สามคือที่บริเวณป่าคอกวัวมีประมาณกว่า 20 คนเช่นกัน โดยทั้ง 3 จุด เป็นเขตติดต่อระหว่างหมู่ 8 บ้านบ้องตี้น้อย และหมู่ 9 บ้านชายทุ่ง ต.วังกระแจะ อ.ไทรโยค จ.กาญจนบุรี 

สำหรับชาวบ้านที่ติดอยู่ภายในป่านั้น มีทั้งเครือญาติ เพื่อนบ้านรวมทั้งพ่อแม่ลูกที่เข้าป่าไปหาเห็ดด้วยกันเด็ก และนอกจากนี้ยังมีกลุ่มพ่อค้าที่เข้าไปรอรับซื้อเห็ดโคนด้วย รวมๆแล้วน่าจะอยู่ที่ประมาณ 60-70 คน

ขณะนี้เจ้าหน้าที่ยังไม่สามารถเข้าไปให้ความช่วยเหลือได้ เนื่องจากเส้นทางค่อนข้างคับแคบและเป็นทางดินโคลนที่ลื่น รถจักรยานยนต์รวมทั้งรถยนต์กระบะหรือรถโฟวิลที่ไม่ยกสูง ก็ไม่สามารถนำเข้าไปได้เช่นกัน เนื่องจากตลอดเส้นทางมีน้ำท่วมสูงและไหลเชี่ยว

นอกจากเจ้าหน้าที่แล้วยังมีญาติของชาวบ้านได้มาช่วยกันพยายามหาทางเข้าไปแต่ก็ไม่สามารถทำได้เช่นกัน ซึ่งจะต้องรอให้น้ำลดระดับลงเท่านั้นชาวบ้านจึงจะออกมาได้

ทีมข่าวภูมิภาคกาญจนบุรี / ปรีชา   ไหลวารินทร์