ระทึก! เกิดอากาศแปรปรวนอย่างหนักทั้งหนาวเย็นช่วงเช้าแต่ช่วงบ่ายเกิดฝนตกหนักจนเกิดน้ำป่าไหลบ่าท่วมหมู่บ้านชาวไทยภูเขาชายแดนอำเภอแม่สอด จังหวัดตากแบบไม่ทันตั้งตัวชาวบ้านหนีน้ำป่าหนีตายโกลาหล ส่วนบนถนนสายแม่สอด-อุ้มผาง มีน้ำท่วมบนถนนหลายจุดการจราจรติดขัด

วันนี้ ( 14  ต.ค.65 ) เมื่อเวลา 16.00 น.  ผู้สื่อข่าวรายงานว่าสภาพอากาศที่ชายแดนอำเภอแม่สอด จังหวัดตาก ในช่วงเช้าที่ผ่านมาได้เกิดหมอกหนาทึบทั่วพื้นที่ภูเขาในทุกหมู่บ้านของชาวไทยภูเขาซึ่งเป็นพื้นที่สูง แต่ช่วงบ่ายเกิดอากาศแปรปรวนอย่างหนักได้เกิดพายุฝนฟ้าคะนองตกแบบไม่หยุดนานต่อเนื่องกว่า 2 ชั่วโมงและเหตุการณ์ที่ไม่มีใครคาดคิดก็เกิดขึ้นเนื่องจากฝนที่ตกหนักส่งผลทำให้เกิดน้ำป่าสีแดงขุ่นพร้อมดินโคลนภูเขาไหลบ่าลงจากยอดภูเขาสูงเหนือตัวหมู่บ้านชาวไทยภูเขาหมู่บ้านเจดีย์โค๊ะใหม่ หมู่ที่ 10 ตำบลมหาวัน อำเภอแม่สอด จังหวัดตาก น้ำป่าได้ไหลทะลักเข้าท่วมพื้นที่ทางการเกษตรของชาวบ้านและไหลเข้าท่วมพื้นที่พักอาศัยของชาวไทยภูเขาแบบไม่ทันตั้งตัวจนสร้างความโกลาหลตกใจไปทั่วหมู่บ้าน ส่วนคนงานจำนวนมากที่กำลังทำงานภาคเกษตรบนพื้นที่ลาดเชิงเขาต่างก็ต้องวิ่งหนีเอาตัวรอดไปหลบน้ำป่าไปไหลอย่างรุนแรงเสียงดังสนั่นดอยโดยคนงานจำนวนมากต่างต้องหนีตายไปหลบบนพื้นที่สูงซึ่งโชคดีที่ไม่มีใครได้รับบาดเจ็บแต่ก็มีทรัพย์สินของคนงานภาคเกษตรที่ขนของหนีน้ำป่าไม่ทันจนมีทรัพย์สินบางส่วนไหลไปกับกระแสน้ำป่าอย่างรวดเร็ว

ส่วนบนถนนสายแม่สอด-อุ้มผาง ซึ่งเป็นเส้นทางสายหลักที่ใช้ขนส่งสินค้าทางการเกษตรจากอำเภอแม่สอดไปอำเภอพบพระและไปสิ้นสุดที่อำเภออุ้มผาง จังหวัดตากนั้นก็ได้รับผลกระทบจากน้ำป่าอย่างหนักเนื่องจากได้มีน้ำป่าไหลบ่าเข้าท่วมขังบนถนนในช่วงหลักกิโลเมตรที่ 27  กม.32 และ กม. 40 เขตอำเภอพบพระ จังหวัดตาก โดยทั้งสามจุดมีระดับน้ำป่าไหลผ่านถนนอย่างรุนแรงและท่วมผิวจราจรสูงกว่า 30- 40 เซนติเมตรทำให้การจราจรของรถทุกชนิดสัญจรเป็นไปด้วยความยากลำบากมากและยังส่งผลทำให้เกิดอุบัติเหตุรถชนท้ายกันหลายคันในบริเวณที่มีน้ำท่วมขังบนถนน เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.พบพระ พร้อมเจ้าหน้าที่หมวดทางหลวงช่องแคบ อำเภอพบพระ ต้องส่งเจ้าหน้าที่ไปติดป้ายเตือนเป็นจุดอันตรายเนื่องจากระดับน้ำเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องและไหลอย่างเชี่ยวกรากบนถนนสายดังกล่าว 

ด้านนางเฝ้า ขวัญวารี อายุ 53 ปี ชาวบ้านในหมู่บ้านชาวไทยภูเขาบ้านเจดีย์โค๊ะใหม่เล่านาทีระทึกว่า ช่วงเช้าบนดอยมีอากาศหนาวเย็นมากและบ้านตนเองพักอาศัยรวมกัน 10 คนอยู่ในบ้านและก็ไม่มีใครคาดคิดว่าจะมีฝนตกอีกแต่ก็เกิดฝนตกหนักมากจนเกิดน้ำป่าบนภูเขาสูงเหนือตัวหมู่บ้านไหลพัดบ้านตนเองได้รับความเสียหายซึ่งตนเองโชคดีหนีเอาตัวรอดมาได้อย่างหวุดหวิดทั้ง 10 ชีวิตและน้ำป่าครั้งนี้เป็นครั้งที่สองของปีนี้แต่ครั้งล่าสุดนี้น้ำป่าท่วมหนักกว่าทุกครั้งที่ผ่านมาและน้ำป่ามีความรุนแรงมากจนสร้างความตกใจโกลาหลไปทั่วหมู่บ้านชาวไทยภูเขาซึ่งเป็นน้ำป่าท่วมหมู่บ้านหนักที่สุดในรอบ 10 ปี

ทีมข่าว จ.ตาก