น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรมว.สาธารณสุข ได้รับรายงานจากกรมควบคุมโรคถึงการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสอีโบลาในประเทศในทวีปแอฟริกา ซึ่งเริ่มตั้งแต่เดือนก.ย.ที่ผ่านมา โดยล่าสุดพบผู้ติดเชื้อในประเทศยูกันดาหลายเมือง จำนวน 90 ราย และมีผู้ป่วยเสียชีวิต 44 ราย
อย่างไรก็ตาม แม้จำนวนผู้ป่วยยังไม่มาก และองค์การอนามัยโลก (WHO) ยังไม่ได้ประกาศให้การระบาดครั้งนี้เป็นภาวะฉุกเฉินทางสาธารณสุขระหว่างประเทศ (PHEIC) แต่กระทรวงสาธารณสุขของไทยไม่ประมาท โดยได้ติดตามสถานการณ์โรคอย่างใกล้ชิด และตั้งแต่เดือนก.ย.เป็นต้นมา ได้ยกระดับมาตรการป้องกันที่ด่านควบคุมโรคติดต่อระหว่างประเทศ เนื่องจากโรคอีโบลาเป็นโรคติดต่ออันตราย ตาม พ.ร.บ.โรคติดต่อ พ.ศ. 2558 โดยตรวจคัดกรองผู้เดินทางมาจากประเทศยูกันดาทุกคน ต้องลงทะเบียน ณ ด่านควบคุมโรคติดต่อระหว่างประเทศก่อนเข้าประเทศไทย
น.ส.ไตรศุลี กล่าวว่า นายอนุทิน ได้กำชับเจ้าหน้าที่สาธารณสุขที่เกี่ยวข้องทุกหน่วยงาน ให้นำมาตรการตรวจคัดกรอง ป้องกันและควบคุมโควิด-19 มาใช้ในการดูแลคัดกรองและป้องกันโรคในครั้งนี้ โดยรองนายกรัฐมนตรีเชื่อมั่นว่าประสบการณ์ในการรับมือกับโควิด-19 ของทุกประเทศทั่วโลกใน 3 ปีที่ผ่านมา สามารถจัดการและควบคุมการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสอีโบลาให้อยู่ในวงจำกัด ไม่กระทบต่อการท่องเที่ยวทั่วโลกที่กำลังฟื้นตัวอยู่ในขณะนี้
โดยในส่วนการท่องเที่ยวไทยมีการฟื้นตัวอย่างต่อเนื่อง และจะเพิ่มขึ้น เนื่องจากกำลังเข้าสู่ช่วงไฮซีซัน ขณะนี้นักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางเข้ามาเยือนประเทศไทยทั้งทางอากาศ ทางบก และทางเรือ ซึ่งล่าสุดเรือสำราญที่ใหญ่ที่สุดในเอเชียได้นำคณะนักท่องเที่ยวต่างชาติมาเยือนภูเก็ตในรอบเกือบ 3 ปี และหลังจากนี้จะมีเข้ามาทุกสัปดาห์ นับเป็นสัญญาณที่ดี ตอกย้ำถึงความเชื่อมั่นที่นักท่องเที่ยวมีต่อประเทศไทย