แฉถังน้ำเหล็กโครงการบ่อบาดาลแก้ภัยแล้งทสจ.กาฬสินธุ์งบตกลงจ้างโครงการไม่เกิน 5 แสนบาท มีการแก้ไขเปลี่ยนแบบบรรจุน้ำ 2 หมื่นลิตร หนัก 20 ตัน แต่ไม่มีเครื่องหมายสัญลักษ์ มอก.เหมือนโครงการและหน่วยงานอื่นๆทั่วไป ชาวบ้านหวั่นแก้แบบเอื้อประโยชน์ให้กับผู้รับเหมา ส่อเจตนาทุจริตตั้งแต่เริ่มโครงการ จี้สตง.-ปปช.และผู้ตรวจการแผ่นดิน ตรวจสอบ เพื่อประโยชน์และให้คุ้มค่ากับเงินภาษีของประชาชนและงบประมาณแผ่นดิน ด้านผอ.ทสจ.กาฬสินธุ์คนใหม่ พร้อมผอ.ส่วนสิ่งแวดล้อม หนึ่งในประธานกรรมการตรวจรับงาน ระบุ มีการแก้ไขปรับเปลี่ยนแบบจากกองทุนพลังงาน แต่มีวิศวกรควบคุมงาน และถังเหล็กมีหนังสือรับรองมาตรฐาน ISO จากโรงงานผู้ผลิต
เมื่อวันที่ 10 พฤศจิกายน 2565 จากกรณีชาวบ้านร้องเรียนตรวจสอบถังเหล็กบรรจุน้ำบ่อบาดาลพลังงานแสงอาทิตย์หรือโซลาร์เซลล์ ในโครงการสนับสนุนน้ำบาดาลเพื่อการเกษตรแก้ปัญหาภัยแล้ง ของสำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม จ.กาฬสินธุ์ ที่มีการนำแผ่นเหล็กมาล้อมต่อเรียงกันขึ้นไปตั้งไว้พื้นดิน และใช้พลาสติกรองรับน้ำด้านใน แต่ไม่มีเครื่องหมายมอก.ทำให้ชาวบ้านเกรงว่าถังน้ำดังกล่าวจะรับน้ำหนักไม่ไหว และจะใช้ประโยชน์ได้ไม่นานไม่คุ้มงบประมาณ 5 แสนบาทเพราะไม่เคยเห็นถังลักษณะนี้มาก่อน ซึ่ง สำนักงานตรวจเงินแผ่นดินจังหวัดกาฬสินธุ์ และ ป.ป.ช.กาฬสินธุ์ พร้อมเข้ามาตรวจสอบ ตามข่าวที่เสนอแล้วนั้น
ล่าสุดที่สำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดกาฬสินธุ์ (ทสจ.) ทีมข่าวได้เข้าพบ นายยศวัฒน์ เธียรสวัสดิ์ ผู้อำนวยการสำนักงาน ทสจ.กาฬสินธุ์ โดย ผอ.ทสจ.ได้เรียก นายประดิษฐ์ สุดชาดา ผู้อำนวยการส่วนสิ่งแวดล้อม สำนักงาน ทสจ.กาฬสินธุ์ ซึ่งเป็นหนึ่งในผู้รับผิดชอบโครงการนี้มาชี้แจงแทน เนื่องจาก นายยศวัฒน์ เธียรสวัสดิ์ แจ้งว่า เพิ่งเดินทางมารับตำแหน่ง ผอ.ทสจ.กาฬสินธุ์ แทน นายอัครพงษ์ เขียวแจ่ม ที่ย้ายไป จ.อุบลราชธานี
โดยนายประดิษฐ์ กล่าวว่า ตนรับผิดชอบจำนวน 12 บ่อ จากจำนวน 19 บ่อ ในโครงการสนับสนุนน้ำบาดาลเพื่อการเกษตรแก้ปัญหาภัยแล้ง ของสำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดกาฬสินธุ์ ที่ผ่านมาเมื่อมีการร้องขอให้ตรวจสอบในเรื่องคุณภาพของโครงสร้างและถังน้ำในลักษณะนี้ หลักการที่ตนได้ดำเนินการนั้นได้อธิบายว่า การประกอบกิจการอุตสาหกรรมต้องขออนุญาต สินค้าอุตสาหกรรมที่จะส่งไปให้ผู้อุปโภค บริโภค ต้องปลอดภัย ได้มาตรฐาน ซึ่งผู้ประกอบการรายนี้ได้รับรองมาตรฐานโรงงานผลิตในระดับ ISO จึงเห็นว่าในเรื่องของมาตรฐาน มอก.จึงเป็นมาตรฐานที่บังคับอยู่แล้ว
“การก่อสร้างถังน้ำบาดาลในลักษณะนี้เป็นการเทียบเคียงจากถังเหล็กยกสูงของกองทุนพลังงาน เป็นหอถังสูง โดยหลักการแบบเป็นลิขสิทธิ์ของผู้ออกแบบ แต่โดยความเป็นราชการ ราชการมีหน้าที่บริการสาธารณะ เรื่องนี้เป็นการทำเพื่อประโยชน์ประชาชน ซึ่งไม่คุ้นตากับเกษตรกร อาจจะมีความกังวล แต่ขอให้สบายใจได้ การออกแบบ วัสดุที่นำมาดำเนินการ ได้มาตรฐาน การก่อสร้างเป็นไปตามรูปแบบรายการ มีวิศวกรควบคุมงาน ดำเนินการตามรูปแบบมาตรฐาน ยืนยันดำเนินการถูกต้อง” นายประดิษฐ์ กล่าวฯ
ด้าน นายยศวัฒน์ เธียรสวัสดิ์ ผู้อำนวยการสำนักงาน ทสจ.กาฬสินธุ์ กล่าวว่า ตนเพิ่งย้ายมารับตำแหน่งใหม่ ซึ่งโครงการดังกล่าวได้ดำเนินการไปแล้ว อย่างไรก็ตามจากการสอบถามเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ทราบว่า มีการลงพื้นที่ตรวจสอบที่ถังบ่อบาดาล ใน ต.แซงบาดาล อ.สมเด็จ จ.กาฬสินธุ์ จำนวน 1 จุด และมีการรายงานไปยังผู้บังคับบัญชาตามลำดับชั้น ทั้งนี้ ได้มีการหารือกับผู้รับจ้าง ให้มีแก้ไขโดยติดสายล่อฟ้าเพื่อลดความเสี่ยงตามที่ชาวบ้านร้องขอมา ขณะที่ในส่วนของการเพิ่มความสูงของเหล็กค้ำยันนั้น ทางผู้รับจ้างและวิศวกรยืนยันถึงความปลอดภัย จึงไม่ได้แก้ไขให้ ซึ่งเท่าที่ทราบโครงการดังกล่าวมีทั้งหมด 19 จุด มีการลงพื้นที่ตรวจสอบเพียง 1 จุด แก้ไขโดยติดตั้งสายล่อฟ้า 12 จุด ส่วนที่เหลืออีก 7 จุด ยังไม่มีรายงานเข้ามา ซึ่งตนจะลงพื้นที่ตรวจสอบด้วยตัวเอง ในกรณี ถังน้ำไม่ได้มาตรฐานอุตสาหกรรม หรือ มอก.นั้น เรื่องนี้คงต้องไปดูให้เห็นกับตา เพราะ ถังน้ำในลักษณะนี้ก็ไม่เคยเห็น ซึ่งก็คงต้องตรวจสอบให้ชัดแจ้งเพื่อป้องกันปัญหาการทุจริตในโครงการนี้
สำหรับกรณีปัญหาบ่อบาดาลได้รับการเปิดเผยขึ้นเมื่อวันที่ 9 กันยายน 2565 ชาวบ้านเรียกร้องให้ ดำเนินการตรวจสอบการก่อสร้างบ่อบาดาลทั้ง 19 โครงการ ของทสจ.กาฬสินธุ์ ที่จัดซื้อจัดจ้างโดยวิธีตกลงจ้างแยกงบประมาณโครงการละไม่เกิน 500,000 บาท รวมงบประมาณเกือบ 10 ล้านบาทครั้งนี้ เพราะพบว่าอาจจะมีการแก้ไขแบบแปลน และกำหนดทีโออาร์ขึ้นมาใหม่ โดยเฉพาะถังกักเก็บน้ำเหล็กขนาดกว่า 2 หมื่นลิตร ซึ่งไม่กำหนดให้มี มอก. แต่ตั้งราคากลางไว้สูงถังละกว่า 120,000 บาท ทำให้หลายคนสงสัยว่าการออกแบบกำหนดทีโออาร์โครงการนี้ด้วยงบประมาณที่สูงในการก่อสร้างถังบาดาล ทำไมไม่เหมือนกับโครงการถังบาดาลอื่นๆที่เคยทำมา
ที่สำคัญเจ้าหน้าที่อ้างว่าได้ใช้แบบคล้ายกับถังน้ำของกรมพลังงานฯ แต่ก็ไม่เคยเห็นถังแบบนี้มาก่อน เนื่องจากการก่อสร้างพบว่ามีการนำแผ่นเหล็กคล้ายแผ่นสังกะสีสรรไทแยกชั้นส่วนมาล้อมต่อเรียงกันขึ้นไป และใช้แผ่นพลาสติกยัดรองน้ำด้านใน ซึ่งเชื่อว่าไม่ใช่การก่อสร้างบ่อบาดาลทั่วไป จึงสงสัยว่าโครงการนี้ฯส่อเอื้อประโยชน์ให้กับบริษัทที่รับจ้าง หรือผู้รับเหมาหรือไม่ จึงขอให้หน่วยงาน โดยเฉพาะสำนักงานตรวจแผ่นดิน (สตง.) ผู้ตรวจการแผ่นดิน และปปช.เข้ามาตรวจสอบทั้ง 19 โครงการ เพื่อประโยชน์และให้คุ้มค่ากับเงินภาษีของประชาชนและงบประมาณแผ่นดิน
สมบูรณ์ นาสาทร ข่าวกาฬสินธุ์รายงาน