หายไปคืนลอยกระทง น้ำใจช่างงามสุดๆ จนท.มูลนิธิพิทักษ์กาญจน์ ทีมชลกาญจน์ ควักกระเป๋าระดมทุนช่วยเหยื่อสูญหายใต้น้ำแควใหญ่ นำไปผ่าพิสูจน์-ทำพิธีทางศาสนาได้มากว่า 6,000 บาท เหตุทั้งครอบครัวและญาติมีเงินแค่ 120 บาท  แบบนี้ได้ทั้งบุญ-กุศล

วันนี้ 11 พำ.ย. 2565 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายนนทกฤต น้ำแก้ว เจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการใต้น้ำ ทีมชลกาญจน์ มูลนิธิพิทักษ์กาญจน์ ได้นำคลิปวีดีโอมาโพสต์ลงในเฟซบุ๊กส่วนตัว ความยาว 1.24 นาที ซึ่งคลิปดังกล่าวเป็นคลิปที่เจ้าหน้าที่ข้างต้นร่วมกันระดมเงินคนละเล็กคนละน้อย มอบให้กับญาติเพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในการนำร่างของผู้สูญหายใต้น้ำไปทำการผ่าชันสูตรหาสาเหตุการเสียชีวิตที่สถาบันนิเวชศูนย์ รพ.นครปฐม  เงินอีกส่วนหนึ่งให้นำไปเป็นค่าใช้จ่ายในการประกอบพิธีทางศาสนา

โดยเนื้อหาใจความในเฟซบุ๊กได้เขียนระบุว่า  “ เราทำด้วยใจไม่หวังสิ่งตอบแทนใดๆทั้งสิ้น เคสผู้สูญหายภายในน้ำหลังวัดหมอเฒ่า ทางญาติผู้เสียชีวิตมีรายได้น้อยมีเพียงแค่เบี้ยคนชราเดือนละ 600 บาท ในการดำรงชีพและมีเงินเหลือติดตัวแค่ 120 บาท  ซึ่งทำให้ไม่มีเงินเพียงพอที่จะจ่ายค่านำศพไปผ่าชันสูตร ทางเราพี่น้องทีมชลกาญจน์จึงได้รวบรวมเงินมอบให้ญาติเป็นจำนวนเงินทั้งสิ้น 6,700 บาท โดยแบ่งเป็น 2 ส่วน ส่วนที่ 1 ค่าเดินทางสำหรับนำศพไปผ่าชันสูตรเป็นจำนวนเงิน 3,500 บาท และส่วนที่ 2 ค่าทำศพประกอบพิธีทางศาสนาเป็นจำนวนเงิน 3,200 บาท #ชุดปฏิบัติการใต้น้ำชลกาญจน์ #ช่วยเหลือฟรีไม่มีค่าใช้จ่ายใดๆทั้งสิ้น #ไม่ซ้ำเติมญาติผู้เสียชีวิต” 

สำหรับตัวแทนมอบเงินให้กับญาติ คือนายสุวัฒ งิ้วงาม หัวหน้าชุดปฏิบัติการใต้น้ำทีมชลกาญจน์  โดยผู้รับได้ไหว้ขอบคุณทุกๆคนที่ให้ความช่วยเหลือระดมเงินเป็นค่าใช้จ่ายด้วยความซาบซึ้งและดีใจเป็นอย่างมาก โดยหลังจากคลิปดังกล่าวถูกเผยแพร่ออกไป มีผู้เข้าไปแสดงความคิดเห็นด้วยการชื่นชมเป็นจำนวนมาก

 จากการตรวจสอบข้อมูลพบว่า เมื่อเวลา 12.30 น.ของวันที่ 10 พ.ย.ที่ผ่านมา นายวสันต์ สุนจิรัตน์ กำนันตำบลช่องสะเดา อ.เมือง จ.กาญจนบุรี ได้รับแจ้งจาก น.ส.ฐิสา นาคจีน ผู้ใหญ่บ้าน หมู่ที่ 2 บ้านหมอเฒ่า ว่ามีชาวบ้านมาแจ้งว่าญาติได้หายตัวไปตั้งแต่คืนลอยกระทงเมื่อวันที่ 8 พฤศจิกายน 65 ชื่อนายประวิทย์ เหล่านุกูล อายุ 45 ปี ก่อนหายตัวนายประวิทย์ได้ขับเรือยนต์ออกไปตามแม่น้ำแควใหญ่ ท้องที่หมู่ 2 ต.ช่องสะเดา อ.เมือง จงกาญจนบุรี ญาติได้ออกติดตามหา แต่ก็ไม่พบ

จากนั้นนายวสันต์ สุนจิรัตน์ กำนันตำบลช่องสะเดา จึงประสานขอความช่วยเหลือจากนายสุวัฒ งิ้วงาม หัวหน้าชุดปฏิบัติการใต้น้ำทีมชลกาญจน์  มูลนิธิพิทักษ์กาญจน์  เพื่อช่วยกันค้นหา พร้อมกับโทรแจ้งศูนย์วิทยุ 191 ให้ ร.ต.อ.ธีรยุทธ อังวะ รอง สว.(สาอบสวน)สภ.ลาดหญ้า ทราบเหตุ

โดยเจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการใต้น้ำทีมชลกาญจน์  มูลนิธิพิทักษ์กาญจน์  ได้นำกำลังพล 30 นาย เจ็ทสกี 3 ลำ เรือท้องแบนอีก 2 ลำ ออกลาดตระเวนค้นหาบนผิวน้ำ จนกระทั่งเวลาประมาณ 18.00 น.เจ้าหน้าที่จึงพบร่างของผู้สูญหายลอยอืดขึ้นมาเหนือน้ำ เจ้าหน้าที่จึงนำร่างขึ้นมา พร้อมประสานแพทย์เวร รพ.พหลพลพยุหเสนา และ ร.ต.อ.ธีรยุทธ อังวะ ให้เดินทางมาชันสูตรพลิกศพในเบื้องต้น จากนั้นจึงส่งไปผ่าพิสูจน์เพื่อหาสาเหตุการเสียชีวิตที่แท้จริงที่สถาบันนิติเวช  รพ.ศูนย์นครปฐม  ก่อนที่จะมอบศพให้ญาตินำไปทำพิธีทางศาสนา

แต่เนื่องจาก น.ส.สมพงษ์  เหล่านุกูล ชาวหมู่ 2 ต.ช่องสะเดา พี่สาวของผู้เสียชีวิต มีฐานะยากจน ทั้งเนื้อทั้งตัวมีเงินเหรียญอยู่เพียงแค่ 120 บาท จึงไม่เพียงพอต่อค่าใช้จ่ายในการนำร่างน้องชายไปผ่าพิสูจน์  ทำให้เจ้าหน้าที่ทุกคนรู้สึกสงสารขึ้นมาทันที ดังนั้นนายสุวัฒ งิ้วงาม หัวหน้าชุดปฏิบัติการใต้น้ำทีมชลกาญจน์  มูลนิธิพิทักษ์กาญจน์ จึงคุยปรึกษาหารือกับทีมงานเพื่อหาทางช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์ด้วยกัน ด้วยการช่วยกันบริจาคเงินคนละเล็กละน้อย จนได้เงินมามอบให้กับพี่สาวของผู้เสียชีวิตเป็นเงิน จำนวน 6,700 บาท โดยแบ่งเป็นเงินค่าใช้จ่ายนำศพไปผ่าพิสูจน์ จำนวน 3500 บาท เงินที่เหลืออีก จำนวน 3,200 บาท ให้เก็บเอาไว้เป็นค่าใช้จ่ายในการนำร่างน้องชายไปทำพิธีทางศาสนา

ทั้งนี้ น.ส.สมพงษ์  เหล่านุกูล ให้การกับเจ้าหน้าที่ว่า ช่วงเย็นของวันที่ 8 พ.ย.ที่ผ่านมา น้องชายได้ขับเรือออกจากบ้านเพื่อจะไปเที่ยวงานลอยกระทงที่วัดหมอเฒ่า หลังจากนั้นนายประวิทย์ น้องชายก็ไม่กลับบ้าน ด้วยความเป็นห่วงตนและเพื่อนบ้านจึงช่วยกันออกตามหาจนกระทั่งพบเรือที่น้องชายขับมาลอยอยู่ในแม่น้ำแควใหญ่ แต่ไม่พบตัวของน้องชาย จึงแจ้งขอความช่วยเหลือจากกำนัน และผู้ใหญ่บ้าน จนกระทั่งเจ้าหน้าที่มาพบศพน้องชายดังกล่าว

ทีมข่าวภูมิภาคกาญจนบุรี / รายงาน