คณะกฎหมายพรรคประชาธิปัตย์ นำโดย นายวิรัตน์ กัลยาศิริ หัวหน้าคณะด้านกฎหมาย นำประชาชนจากอำเภอหล่มเก่า จังหวัดเพชรบูรณ์ แถลงข่าวเรียกร้องความเป็นธรรมจากภาครัฐ กรณีผลกระทบจากการประกาศใช้มาตรา 44 ของ คสช. ให้อำนาจเจ้าหน้ายึดที่ป่าภูทับเบิก จังหวัดเพชรบูรณ์ว่าหลังจากคณะทำงานฯ ได้ลงพื้นที่ตรวจสอบ และพบปะกับแกนนำในพื้นที่ ทั้งผู้ใหญ่บ้าน ผู้นำชุมชน ผู้นำตระกูล ผู้นำแซ่ จึงได้ทราบปัญหาว่าประชาชนในพื้นที่ได้รับความเดือดร้อนจากคำสั่งนี้เป็นจำนวนมาก ทั้งที่พื้นที่ที่ชาวบ้านอาศัยอยู่ อยู่นอกเขตป่าสงวน และนอกพื้นที่อุทยาน และเป็นพื้นที่ที่ทางการประกาศให้ชาวม้งไทยอาศัยอยู่มากว่า 200 ปี ประชาชนในพื้นที่มีบัตรประจำตัวประชาชนคนไทย ชาวบ้านที่ได้รับความเดือดร้อนจึงนำเรื่องมาร้องเรียนกับ ส.ส.ในพื้นที่ และส.ส.ในพื้นที่ได้นำเรื่องมาร้องขอให้คณะทำงานด้านกฎหมายพรรคประชาธิปัตย์ช่วยเหลือ
โดยนายยุพราช บัวอินทร์ อดีต ส.ส.เพชรบูรณ์ พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงเรื่องนี้ว่า ที่ผ่านมาสื่อมวลชนได้ตีข่าวว่าประชาชนไทยในพื้นที่เป็นผู้ตัดไม้ทำลายป่า เพื่อสร้างรีสอร์ท ซึ่งความจริงแล้วประชาชนในพื้นที่ไม่ได้บุกรุกป่าเพิ่มจากพื้นที่ที่ทางการอนุญาตให้ทำกินเลย ข้อเท็จจริงคือ เมื่อมีการส่งเสริมการท่องเที่ยวจากทางภาครัฐ หน่วยรัฐได้เข้าไปให้คำแนะนำให้ชาวบ้านทำโฮมสเตย์ เพื่อรองรับนักท่องเที่ยว ชาวบ้านจึงปรับปรุงพื้นที่เดิมที่มีอยู่ให้ได้มาตรฐาน แต่วันนี้กลับถูกมาตรา 44 สั่งให้รื้อถอน พร้อมกับกล่าวหาว่าบุกรุกพื้นที่ป่า
ขณะที่นายมงคล เหล่ารัตนกุล ตัวแทนชาวไทยม้งจากภูทับเบิก จังหวัดเพชรบูรณ์ สะท้อนความเดือดร้อนว่าตนและคณะได้นำความเดือดร้อนนี้ไปยื่นให้กับนายกรัฐมนตรี ที่ทำเนียบรัฐบาล และยื่นหน่วยงานในจังหวัด แต่เรื่องไม่ได้รับการเยียวยา และไม่มีความคืบหน้า ผลจากความไม่ชัดเจนในคำสั่งส่งผลกระทบให้งบประมาณที่จะเข้ามาดูแลชุมชนถูกตัดไป สร้างความเดือดร้อนให้ประชาชนในพื้นที่ ตนและคณะจึงนำเรื่องความเดือดร้อนไปร้องต่อ ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์เพื่อขอความช่วยเหลือดังกล่าว