พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เป็นประธาน KICK OFF มาตรการช่วยเหลือ และยกระดับรายได้เกษตรกรผู้ปลูกข้าว ปีการผลิต 2565/66 ณ บริเวณสนามหน้าศาลากลาง จังหวัดเพชรบูรณ์ ซึ่งจัดโดยธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) พร้อมทั้ง นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง และประธานกรรมการธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) ,นายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน ,นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ,และนายสันติ พร้อมพัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง

โดย นายกฤษณ์ คงเมือง ผู้ว่าราชการจังหวัดเพชรบูรณ์ กล่าวต้อนรับ, และนายธนารัตน์ งามวลัยรัตน์ ผู้จัดการ ธ.ก.ส. กล่าวรายงาน พร้อมด้วย นายชัชวาลย์ เบญจสิริวงศ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดเพชรบูรณ์ ร่วมให้การต้อนรับ ซึ่งมีผู้บริหาร ผู้แทนจากส่วนงานต่าง ๆ หัวหน้าส่วนราชการในพื้นที่ และเกษตรกร จำนวน 5,000 คน ร่วมกิจกรรม

โดยเมื่อเดินทางถึงบริเวณสนามหน้าศาลากลาง จังหวัดเพชรบูรณ์ นายกรัฐมนตรี ได้ทักทายและกล่าวพบปะเกษตรกรและประชาชนในพื้นที่ที่มาร่วมกิจกรรม จากนั้น นายกรัฐมนตรีได้ทำพิธีกดปุ่มโอนเงินโครงการสนับสนุนค่าบริหารจัดการและพัฒนาคุณภาพผลผลิตเกษตรกรผู้ปลูกข้าว ปีการผลิต 2565/66 และเป็นสักขีพยานในการมอบสมุดบัญชีเงินฝากธนาคารให้แก่เกษตรกรผู้ปลูกข้าวฯ

กิจกรรมครั้งนี้ เป็นการโอนเงินโครงการสนับสนุนค่าบริหารจัดการและพัฒนาคุณภาพผลผลิตเกษตรกรผู้ปลูกข้าว ปีการผลิต 2565/66 ตามกรอบงบประมาณที่ได้รับการอนุมัติจากคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 15 พฤศจิกายน 2565 คณะกรรมการ ธ.ก.ส. นำโดย นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง และประธานกรรมการ ธ.ก.ส. ได้ให้ความเห็นชอบกรอบแนวทางการดำเนินงานเมื่อวันที่ 21 พฤศจิกายน 2565 ในวงเงินงบประมาณจำนวน 81,265 ล้านบาท โดยมีเป้าหมายการช่วยเหลือเกษตรกรจำนวน 4.68 ล้านครัวเรือน

ทั้งนี้ ธ.ก.ส. ได้ดำเนินการโอนเงินเข้าบัญชีของเกษตรกร โดยตรง ตามข้อมูลเกษตรกรผู้ปลูกข้าว ปีการผลิต 2565/66 ที่ได้รับจากกรมส่งเสริมการเกษตร กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ในอัตรา ไร่ละ 1,000 บาท สูงสุดไม่เกิน 20 ไร่ หรือไม่เกิน 20,000 บาทต่อครัวเรือน เริ่มโอนวันที่ 24 พฤศจิกายน 2565 เป็นงวดแรก

สำหรับการจัดกิจกรรมในวันนี้ รัฐบาลได้โอนเงินงวดแรกตามมาตรการช่วยเหลือและยกระดับรายได้เกษตรกรผู้ปลูกข้าว ไปยังชาวนาทั่วประเทศ จำนวน 14,531 ล้านบาท จากเป้าหมายรวม 81,265 ล้านบาท ตามที่รัฐบาลได้อนุมัติวงเงินเพื่อ ให้ ธ.ก.ส. ดำเนินมาตรการช่วยเหลือและยกระดับรายได้เกษตรกรผู้ปลูกข้าวผ่าน 4 โครงการ ในการเสริมสภาพคล่องในการใช้จ่าย และพัฒนาศักยภาพในการผลิต เพื่อให้มีโอกาสขายข้าวเปลือกในราคาที่สูงขึ้น

ซึ่งมีเกษตรกรได้รับประโยชน์จำนวน 4.68 ล้าน ครัวเรือน ระยะเวลาดำเนินโครงการตั้งแต่บัดนี้จนถึง 30 กันยายน 2566 ประกอบด้วย มาตรการจ่ายเงินช่วยเหลือเกษตรกร ได้แก่ โครงการแรกสนับสนุนค่าบริหารจัดการและพัฒนาคุณภาพผลผลิตเกษตรกรผู้ปลูกข้าว ปีการผลิต 2565/66 โดยสนับสนุนเงินให้เกษตรกรที่ขึ้นทะเบียนผู้ปลูกข้าวกับกรมส่งเสริมการเกษตร กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ปีการผลิต 2565/66 ในอัตราไร่ละ 1,000 บาท สูงสุดไม่เกิน 20 ไร่ หรือไม่เกิน 20,000 บาทต่อครัวเรือน วงเงินงบประมาณ 55,083 ล้านบาท โดยในส่วนของจังหวัดเพชรบูรณ์ มีเกษตรกรได้รับเงินช่วยเหลือจำนวน 77,452 ราย เป็นจำนวนเงินกว่า 932 ล้านบาท

ทั้งนี้ การดำเนินโครงการเพื่อช่วยเหลือพี่น้องเกษตรกรอย่างต่อเนื่อง นอกจากช่วยให้เกษตรกรได้รับผลตอบแทนจากการผลิตที่เหมาะสม ยังเป็นการช่วยแก้ไขปัญหาราคาผลผลิตตกต่ำ โดยเฉพาะในช่วงเศรษฐกิจโลกและเศรษฐกิจไทยอยู่ในสภาวะซบเซา จากสถานการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส โควิด-19 รวมถึงภัยธรรมชาติต่างๆ เพื่อเดินหน้าโครงการสำคัญของรัฐบาล ในการช่วยเหลือและยกระดับคุณภาพชีวิตของเกษตรกรผู้ปลูกข้าว เป็นการสร้างขวัญกำลังใจให้กับเกษตรกร และกระตุ้นระบบเศรษฐกิจฐานรากของประเทศไทยให้มีความมั่นคง มั่งคั่ง และยั่งยืน โดยไม่ทิ้งใครไว้เบื้องหลัง ตามเจตนารมณ์ของรัฐบาล

โอกาสนี้ นายกรัฐมนตรีและคณะได้พบปะพี่น้องเกษตรกร ที่มาร่วมกิจกรรม และเยี่ยมชมบูธนิทรรศการต่างๆ อาทิ บูธของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และกลุ่มวิสาหกิจต่างๆ ก่อนเดินทางกลับ