นายพรเพชร วิชิตชลชัย ประธานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ เปิดเผยว่า ขณะนี้ กกต. ยังไม่ส่งข้อโต้แย้ง ร่างพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยคณะกรรมการการเลือกตั้ง หรือ กกต. มาที่ สนช. ซึ่งหากส่งมาภายในวันที่ 23 มิถุนายน นี้ ต้องดำเนินการตั้งคณะกรรมาธิการร่วม 3 ฝ่าย รวม 11 คน ประกอบด้วย ประธาน กกต.1 คน สนช. 5 คน และ กรธ. 5 คน ซึ่งในสัดส่วนของ สนช. จะต้องหารือในวิป สนช. ก่อนนำเข้าสู่ที่ประชุม สนช. ในสัปดาห์หน้า จากนั้น กรรมาธิการร่วม จะใช้เวลา 15 วัน ในการพิจารณา และหากไม่มีการแก้ไขจากร่างเดิม ก็สามารถส่งให้นายกรัฐมนตรี นำขึ้นทูลเกล้าฯ แต่หากมีการแก้ไขต้องให้ที่ประชุม สนช. ลงมติเห็นชอบก่อน

     สำหรับประเด็น ระบบไพรมารีโหวต ในร่าง พ.ร.ป.พรรคการเมือง ที่ กรธ. กังวลถึงแนวทางปฏิบัติและกรอบเวลา ในการดำเนินการนั้น ประธาน สนช. ย้ำว่า ยังไม่ทราบรายละเอียด เป็นเรื่องที่ กกต. และ กรธ. ต้องหารือกัน แต่หากมีปัญหาเพียงปฎิบัติ ก็ไม่สามารถตั้งคณะกรรมาธิการร่วมได้ เพราะการจะตั้ง กรรมาธิการร่วมได้ต้องเป็นประเด็นขัดรัฐธรรมนูญเท่านั้น

    พร้อมกันนี้ นายพรเพชร ยังกล่าวยืนยันว่า ร่างพระราชบัญญัติ 2 ฉบับ ที่คณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาเสร็จแล้ว ในวาระ 2 และ 3 ได้แก่ ร่างพระราชบัญญัติการจัดทำยุทธศาสตร์ชาติ และร่างพระราชบัญญัติแผนและขั้นตอนการดำเนินการปฏิรูปประเทศไม่ขัดรัฐธรรมนูญ ซึ่งขั้นตอนการพิจารณานับหนึ่งตั้งแต่การเสนอร่างฯต่อ สนช. ดังนั้น แม้จะมีผู้ไปร้องต่อผู้ตรวจการแผ่นดิน ว่า คณะรัฐมนตรี มีความเห็นชอบก่อนรัฐธรรมนูญ มีผลบังคับใช้ ก็ถือว่า คำร้องนั้นไม่มีผล

   ทั้งนี้ ประธาน สนช. ระบุ ด้วยว่า กรณีที่ไม่มีตัวแทนภาคประชาชน เข้าไปเป็นคณะกรรมการยุทธศาสตร์ชาติ ยังไม่สามารถสรุปได้ว่าในคณะกรรมการชุดนี้ จะมีหรือไม่ เพราะขั้นตอนยังไม่สิ้นสุด ต้องขอสอบถามคณะกรรมาธิการพิจารณาร่าง พ.ร.บ.ยุทธศาสตร์ชาติ