นายกโก้ เตรียมนำชาวบ้านตำบลบางละมุงที่ได้รับผลกระทบ โครงการก่อสร้างสะพานข้ามคลองบางละมุง และ โครงการข้ามแยกสะพานโรงโป๊ะ ยื่นหนังสือคัดค้าน 3 หน่วยงาน เพื่อชะลอการดำเนินการพร้อมนำโครงการกลับไปทบทวนใหม่ หลังพบ ทั้ง 2 โครงการส่งผลกระทบเรื่องความเป็นอยู่ เศรษฐกิจชุมชนโดยตรง
ว่าที่ร้อยตรีจเรวัฒน์ ชินวัฒน์ นายกเทศมนตรีตำบลบางละมุง เปิดเผยกับผู้สื่อข่าว ถึงการเตรียมยื่นหลังสือคัดค้านการดำเนินการก่อสร้าง 2 โครงการใหญ่ในพื้นที่ตำบลบางละมุง ได้แก่โครงการกาอสร้างสะพานข้ามคลองบางละมุง และ โครงการก่อสร้างสะพานข้ามแยกโรงโป๊ะ หลังจากที่พบว่าโครงการดังกล่าวส่งผลกระทบต่อชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชนในพื้นที่เป็นอย่างมาก อีกทั้งยังส่งผลกระทบถึงเศรษฐกิจในชุมชนอีกด้วย
สำหรับโครงการก่อสร้างสะพานข้ามคลองบางละมุง บนทางหลวงหมายเลข 3 กม.132+430 ชลบุรี เป็นส่วนหนึ่งของการปรับปรุงแก้ไข ปัญหาการจราจรบนทางหลวงหมายเลข 3 ช่วงบริเวณทางแยกต่างระดับแหลมฉบัง ถึงคลองบางละมุง เพื่อแก้ไขปัญหาการติดขัดของจราจร โดยเฉพาะชั่วโมงเร่งด่วน เนื่องจากบริเวณสองข้างทางมีชุมชนและสถานที่สำคัญหลายแห่ง ทั้งสถานที่ท่องเที่ยว สถานศึกษา โรงพยาบาล และนิคมอุตสาหกรรม ทำให้ไม่สะดวกและล่าช้าในการเดินทาง อีกทั้งทางหลวงสายนี้ยังมีข้อจำกัดทางด้านพื้นที่ในการขยายถนน จึงเป็นที่มาของการกำหนดรูปแบบการปรับปรุง แก้ไขปัญหาการจราจรบนทางหลวงหมายเลข 3 ช่วงดังกล่าว
นอกจากนี้ยังรวมไปถึงโครงการสะพานข้ามแยกไฟแดงแยกโรงโป๊ะ ที่กระทรวงคมนาคม ได้มีมติส่งเสริมการทำสะพานข้ามแยกไฟแดงทั่วประเทศ เพื่อลดปัญหาการเกิดอุบัติเหตุ และ ปัญหาจราจรติดขั้น
ด้านว่าที่ร้อยตรีจเรวัฒน์ ชินวัฒน์ นายกเทศมนตรีตำบลบางละมุง เผยว่า สำหรับ 2 โครงการดังกล่าวถึงแม้ว่าจากการทำประชาคมพบว่ามีประชาชนจำนวนหนึ่งที่เห็นด้วย แต่ก็พบว่ามีประชาชนในพื้นที่อีกจำนวนไม่น้อยที่จะได้รับผลกระทบ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการดำดเนินการสร้างสะพานข้ามแยกโรงโป๊ะ ซึ่งการดำเนินการโครงการดังกล่าวถือว่าไม่เป็นการส่งเสริมเศรษฐกิจชุมชน และอาจจะส่งผลกระทบต่อผู้ประกอบการถาคธุรกิจได้ในอนาคต ดังนั้นในวันพรุ้งนี้ ส่วนตัวจะเดินทางไปพร้อมกับ อดีต สส.พจนารถ แก้วผลึก และผู้ประกอบการ ประชาชนที่ได้รับผลกระทบ เพื่อยื่นหนังสือคัดค้าน 3 องค์กร ประกอบไปด้วย จังหวัดชลบุรี , ทำเนียบรัฐบาล และ รัฐสภาตามลำดับ เพื่อให้ทราบถึงความเดือดร้อยของประชาชน ส่วนข้อสรุปออกมาจะเป็นอย่างไรก็คงต้องขึ้นอยู่กับดุลย์พินิจของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต่อไป...